ผู้ว่าฯ สงสัยตัวเลขผู้ป่วยของรบ.อินโดฯ
ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาและชวาตะวันตก ซึ่งเป็นสองพื้นที่ในอินโดนีเซียที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดของโควิด-19 ชี้ว่า ในความเป็นจริงจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในประเทศสูงกว่าตัวเลขทางการของรัฐบาลกลางอย่างชัดเจน
โดยพวกเขาระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียไม่มีศักยภาพมากพอในการตรวจทดสอบผู้ป่วยโควิด -19 ได้ทันท่วงที
จากการประเมินของสื่อในอินโดฯ ที่รวบรวมจากการแถลงรายวันของกระทรวงสาธารณสุข จนถึงวันที่ 3 เม.ย.ทางกระทรวงยืนยันว่ามีผู้ป่วยสะสม 1,986 รายและมีผู้เสียชีวิต 181 ราย
“ ขอโทษนะครับ ท่านรองประธานาธิบดี ผู้ป่วยในวันนี้สูงกว่านั้น กระบวนการในการตรวจทดสอบไม่เร็วอย่างที่เราคาดการณ์ ทำให้มีข้อมูลเข้ามาน้อย” ริดวัน คามิล ผู้ว่าการชวาตะวันตกระบุในระหว่างการประชุมทางวีดีโอกับ รองประธานาธิบดีมารุฟ อามิน เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา
“ ยิ่งเราตรวจได้มาก เราจะยิ่งทราบว่าไวรัสกระจายไปที่ไหน” ผู้ว่าฯริดวันระบุว่าตัวเลขของรัฐบาลกลางชี้ว่ามีผู้ป่วย 225 รายในชวาตะวันตกในวันที่ 3 เม.ย. แต่ผลการตรวจทดสอบจากคณะทำงานของเขาเปิดเผยว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึง 677 ราย
เขาชี้ว่า จำเป็นต้องมีการตรวจให้เร็วกว่ากระบวนการของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งสามารถตรวจทดสอบได้เพียง 200 ตัวอย่างต่อวันเท่านั้น
โดยชวาตะวันตกได้แจกจ่ายชุดตรวจอย่างรวดเร็วออกไป 50,000 ชุด และพบว่าสุคาบูมิเป็นพื้นที่ศูนย์กลางการระบาด โดยพบว่าแหล่งแพร่เชื้อใหญ่ที่สุดคือร.ร.ตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนักเรียนตำรวจ 300 นายจากทั้งหมด 1,550 นายมีผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด – 19
แหล่งแพร่เชื้อใหญ่รองลงมาคือที่โบสถ์ Lembang Bethel ซึ่งมีผลตรวจว่ามีผู้ติดเชื้อ 226 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 2 รายคือบาทหลวงและภรรยา “จากผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในโบสถ์ 637 ราย มีผู้ติดเชื้อ 226 ราย คิดเป็น 35%” ผู้ว่าฯริดวันระบุ
เขาระบุว่า ในพื้นที่ของเขามีมาตรการเชิงรุกในการตรวจทดสอบนอกเหนือจากศูนย์สุขภาพและโรงพยาบาล โดยมีสถานีตรวจแบบไดรฟ์ธรูในสนามกีฬา
อานีส บาสวีเดน ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาเองก็สงสัยตัวเลขของรัฐบาลกลาง โดยเฉพาะตัวเลขผู้เสียชีวิต
ในกรุงจาการ์ตา มีการฝังศพเกือบ 4,400 รายในเดือนมี.ค. สูงขึ้น 40% นับตั้งแต่เดือนม.ค.2561 เป็นต้นมา จากสถิติของฝ่ายฌาปนกิจศพของเมือง
“ นี่เป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก ” บาสวีเดนกล่าวให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 3 เม.ย. โดยอ้างจากสถิติการฌาปนกิจศพ “ผมพยายามหาเหตุผลอื่นๆสำหรับผู้เสียชีวิตจากโควิด -19 ที่ไม่มีการรายงาน ”
โดยผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาแจ้งกับรองประธานาธิบดีมารุฟผ่านการประชุมทางวีดีโอเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ว่า มีพลเมืองจาการ์ตากว่า 400 รายที่เสียชีวิตจากโควิด-19 และถูกฝัง
ระหว่างวันที่ 6 มี.ค. – 1 เม.ย. มีการฝัง 401 ศพตามเกณฑ์มาตรฐาน คือมีการพ่นยาฆ่าเชื้อ ใช้พลาสติกห่อศพและบรรจุลงโลงศพ จากรายงานของผู้ว่าฯ บาสวีเดน โดยเขาระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นในวันที่ 12 มี.ค. เกือบสัปดาห์หลังจากมีการฝังศพรายแรก
จนถึงวันที่ 3 เม.ย. กรุงจาการ์ตารายงานผู้ป่วยยืนยัน 958 รายและมีผู้เสียชีวิต 96 ราย
ผู้ว่าฯ ขอให้รัฐบาลกลางช่วยปรับปรุงศักยภาพในการตรวจทดสอบของเมือง “ หลายเคสไม่ได้มีการตรวจและรับมือทันที ผลที่ตามมาคือเสียชีวิต เราล่าช้าในการตรวจที่อาจทำให้มีการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นอีกมาก”.