ประกาศกฎอัยการศึกบนเกาะมินดาเนา
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์ประกาศกฎอัยการศึกเป็นเวลา 60 วันบนเกาะมินดาเนา หลังจากมีการปะทะกันระหว่างกองทัพและกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายจากรัฐอิสลาม
มีรายงานว่า เหตุความรุนแรงบนเกาะมินดาเนาซึ่งอยู่ทางใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 3 นาย แต่ทางกองทัพยังไม่ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต ระบุแต่ว่า มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 8 นาย เกาะมินดาเนาเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎมุสลิมที่มีแผนสำคัญคือจะแบ่งแยกดินแดนเป็นเอกราช
โดยประธานาธิบดีดูเตอร์เตได้ประกาศกฎอัยการศึกในระหว่างการเยือนรัสเซีย จึงทำให้เขาต้องลดระยะเวลาในการเยือนรัสเซียลงเพื่อจะรีบกลับมาควบคุมสถานการณ์ที่ตึงเครียดในฟิลิปปินส์ให้เร็วที่สุด
กฎอัยการศึกอนุญาตให้มีการใช้กำลังของทางกองทัพเข้าไปบังคับใช้กฎหมายและสามารถจับกุมกักขังประชาชนได้โดยไม่ต้องมีการตั้งข้อหาที่ใช้เวลานานในการดำเนินการ
ทั้งนี้ นายพลเอ็ดดูอาร์โด อาโน ผู้บัญชาการกองทัพรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ของความรุนแรงขึ้นในเมืองมาราวี ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 200,000 คนบนเกาะมินดาเนา เมื่อวันที่ 23 พ.ค.เนื่องจากกองทัพออกตามล่าอิสนิลอน ฮาปิลอน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธอาบู เซยาฟ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกลุ่มก่อการร้ายไอเอส “ ผมขอแนะนำให้ประชาชนอยู่แต่ในเคหะสถาน เราจะเข้าเคลียร์พื้นที่ ” เขากล่าว
โดยนายฮาปิลอน ผู้นำกลุ่มกบฎ ถูกตั้งค่าหัวจากสหรัฐฯ ถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเชื่อว่า กำลังอยู่ในระหว่างการหลบซ่อนตัว
เดลฟิน ลอเรนซานา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแถลงว่า กลุ่มติดอาวุธเป็นสมาชิกของกลุ่ม Maute ที่บุกยึดโรงพยาบาลและคุก และวางเพลิงเผาผลาญหลายอาคาร รวมทั้งโบสถ์ด้วย
นายพลอาโนรายงานว่า มีมือปืนประมาณ 50 นาย จากการยิงปะทะกันในช่วงบ่ายถึงค่ำ
นอกจากนี้ ยังมีภาพที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียจากพลเมืองผู้อาศัยในเมืองมาราวีรายหยึ่ง ชี้ให้เห็นว่ามือปืนเดินไปตามถนนหลายสายในตัวเมืองมาราวี ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยในเขตตัวเมืองประมาณ 1,700 คน
โดยเมืองมาราวีอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางใต้ประมาณ 800 ก.ม.
อ้างอิงจากรัฐธรรมนูญของฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีมีอำนาจในการประกาศกฎอัยการศึกเป็นเวลา 60 วันเพื่อหยุดยั้งปราบปรามการบุกรุก หรือการก่อกบฎ
รัฐสภาสามารถเพิกถอนการประกาศกฎอัยการศึกได้ภายใน 48 ชั่วโมง ขณะที่ศาลสูงสุดมีอำนาจในการพิจารณาทบทวนให้มีการใช้กฎอัยการศึกเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย.