แรงงานทะลักจากไทย หวั่นแพร่เชื้อประเทศเพื่อนบ้าน
แรงงานอพยพจากลาว เมียนมา และกัมพูชาที่ตกงานหลายหมื่นคนจากมาตรการปิดร้านค้าในห้างและสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ เพื่อควบคุมไวรัส เร่งเดินทางกลับบ้าน ทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด -19 จากไทยไปประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
โดยเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ประเทศไทย ซึ่งรายงานตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อ 721 รายจากไวรัสโควิด – 19 สั่งการให้มีการปิดด่านพรมแดนในช่วงสุดสัปดาห์ เป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมการระบาดของไวรัส แต่การล็อกดาวน์กรุงเทพฯ ทำให้มีแรงงานต่างด้าวเข้าแถวต่อคิวยาวที่ด่านชายแดน โดยมีแรงงานต่างด้าวรอคิวตั้งแต่คืนวันที่ 22 มี.ค. ก่อนที่จะมีการเปิดด่านในช่วงเช้าวันที่ 23 มี.ค.
ที่จ.สระแก้วของไทย มีแรงงานเกือบ 40,000 คนที่ข้ามด่านไปกัมพูชาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มากกว่าช่วงเวลาปกติถึง 2 เท่า จากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของจังหวัด
ในช่วงเวลาเดียวกัน มีแรงงานประมาณ 6,000 คนที่จ.ตากของไทยข้ามด่านแม่สอดกลับไปเมืองเมียววดีในเมียนมา และมีแรงงานอีกกว่า 1,000 คนที่รอตลอดคืนเพื่อให้มีการขยายกำหนดเวลาการปิดด่าน
“ ด่านพรมแดนจะเปิดจนถึงเวลา 18.30 น.ในวันนี้ และเราจะอนุญาตเฉพาะผู้ที่มารอที่ด่านอยู่ก่อนแล้วให้ข้ามไปได้ ” เจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนที่จ.ตากให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 23 มี.ค.
ประเทศไทยซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน มีแรงงานต่างด้าวมากกว่า 3 ล้านคน โดยส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน
ก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของการระบาดจากการที่แรงงานอพยพกลับบ้านในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ รัฐบาลเมียนมา ลาว กัมพูชาและไทยได้ประกาศยกเลิกวันหยุดช่วงสงกรานต์ไปแล้ว
แต่ทางกทม.ซึ่งพยายามจะควบคุมการระบาดของไวรัสได้ประกาศปิดธุรกิจค้าปลีกและสถานบันเทิง ยกเว้นแต่ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดสด ร้านขายยา และร้านอาหารแบบสั่งกลับบ้าน ทำให้แรงงานค่าแรงขั้นต่ำชาวไทยและแรงงานต่างด้าวเดินทางด้วยรถโดยสารกลับบ้านที่ต่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน
“ฉันไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกครั้งเมื่อไร ทุกอย่างมันกะทันหันมาก” น.ส.ออนสี พนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นชาวลาวกล่าวให้สัมภาษณืกับสื่อ “ ถ้ายังอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีเงินจ่ายค่าอาหาร ถ้ากลับบ้าน อย่างน้อยยังมีข้าวให้กิน”
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. พลเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากทม.ได้แถลงขอให้ประชาชนอยู่บ้าน และอย่าเดินทางออกจากกรุงเทพฯ แต่จากคำสั่งล็อกดาวน์ในอีกหลายจังหวัดพร้อมกัน ทั้งจ.เชียงใหม่ ขอนแก่น และนครราชสีมา ส่งผลทำให้แรงงานรายวันตกงานจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนกัมพูชาคนหนึ่งให้ความเห็นว่า กังวลว่าผู้ที่เดินทางจากไทยจะกลับไปแพร่เชื้อในประเทศ จึงควรมีการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด เนื่องจากตอนนี้ กัมพูชามีผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 86 ราย
ขณะที่ลาวและเมียนมา ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อแม้แต่คนเดียว โดยเมียนมากำลังรอผลตรวจผู้ป่วยต้องสงสัย 19 ราย และอีก 187 รายตรวจแล้วไม่พบเชื้อ
ดร.สเตฟาน พอล จอสท์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำเมียนมากล่าวให้สัมภาษณ์สื่อว่า การขาดแคลนชุดทดสอบในช่วงแรกของเมียนมา ทำให้มีการตรวจผู้ป่วยอย่างจำกัด แต่ตอนนี้มีความพร้อมแล้ว “ คุณไม่อาจสู้ไวรัสได้หากคุณไม่ทราบว่ามันจากไหน แต่ตอนนี้ มีความพร้อมที่จะตรวจคนในแต่ละวันได้มากขึ้น”