มูห์ยิดดิน ยัสซินเป็นนายกฯมาเลเซียคนใหม่
กัวลาลัมเปอร์ (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 1 มี.ค. นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นักการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคอัมโน อดีตพรรครัฐบาลที่พัวพันกับคดีทุจริตอื้อฉาว ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย หลังจากกษัตริย์ทรงแต่งตั้งเขาให้ดำรงตำแหน่งแทนนายกฯมหาเธร์ โมฮัมหมัดที่ลาออกไปอย่างกะทันหัน
มีพิธีสาบานตนเกิดขึ้นหลังจากในสัปดาห์ที่แล้ว เกิดเหตุวุ่นวายทางการเมืองเมื่อนายกฯมหาเธร์ โมฮัมหมัดลาออกเพื่อหวังรวมอำนาจ แต่กลับยุติลงด้วยการที่เขาหลุดออกไปนอกวง และถูกระบุว่าเป็นคนทรยศหลังจากเคยครองอำนาจในวงการเมืองมาเลเซียนานหลายทศวรรษ
มหาเธร์สัญญาว่าจะให้มีการโหวตลงมติในสภาเพื่อท้าทายแรงสนับสนุนมูห์ยิดดิน แต่ยอมรับว่าเขาอาจจะไม่ชนะ
นายมูห์ยิดดิน วัย 72 ปี เข้าพิธีสาบานตนในพระราชวังต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลละห์ ชะห์ และสัญญาจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีอย่างสุดความสามารถ โดยสำนักนายกฯระบุว่า เขาจะเริ่มทำงานในเช้าวันที่ 2 มี.ค. แต่ไม่ได้ให้ความเห็นมากกว่านี้
มีการเปลี่ยนตัวผู้นำมาเลเซียอีกครั้งในเวลาไม่ถึง 2 ปี หลังจากอดีตนายกฯ มหาเธร์ผนึกกำลังเป็นพันธมิตรกับศัตรูคู่แข่งเดิมคือ นายอันวาร์ อิบราฮิม วัย 72 ปี พวกเขาสามารถโค่นพรรคอัมโน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลมานานถึง 6 ทศวรรษและมีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตลงได้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2561
“ นี่เป็นเรื่องแปลกมาก” มหาเธร์กล่าว “ นี่คือบรรดาผู้แพ้ที่จะจัดตั้งรัฐบาล” เขาเสริม โดยอ้างถึงผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุด
โดยมหาเธร์ระบุว่า เขามีเสียงสนับสนุน 114 เสียงในสภาจากทั้งหมด 222 เสียง แต่ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าพวกเขาจะโหวตให้เขาทั้งหมดเมื่อถึงเวลาลงมติ
มหาเธร์ตั้งคำถามว่ารัฐบาลใหม่ที่เกี่ยวข้องพัวพันกับอดีตพรรครัฐบาลเดิมจะมีความพร้อมแค่ไหนในการจัดการกับคดีทุจริตของนักการเมือง ซึ่งรวมถึงอดีต นายกฯ นาจิบ ราซัค ที่กำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีของศาลในคดีทุจริตกองทุน 1MDB ที่อื้อฉาว
สัปดาห์ของการพลิกผันทางการเมืองในมาเลเซียเริ่มต้นขึ้นเมื่อนายกฯ มหาเธร์ประกาศลาออก เป็นการฉีกข้อตกลงกาารเป็นพันธมิตรกับนายอันวาร์ โดยเขาเสนอให้มีรัฐบาลแห่งชาติที่มีความเป็นเอกภาพเพื่อทำให้เขามีอำนาจมากขึ้น แต่อันวาร์ท้าทายอำนาจเขาเพื่อให้ได้เป็นนายกฯตามข้อตกลงเดิม ขณะที่มูห์ยิดดินชิงสร้างพันธมิตรของเขาเอง
กลายเป็นกษัตริย์มาเลเซียที่ทรงเลือกว่าใครมีโอกาสมากที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาล แม้มหาเธร์และอันวาร์จะระบุว่า พวกเขากลับมารวมกันได้แล้วเมื่อวันที่ 29 ก.พ.และตอนนี้มีเสียงสนับสนุนส่วนใหญ่ แต่กษัตริย์ก็ทรงประกาศให้มูห์ยิดดินเป็นตัวเลือก
มีผู้ประท้วงประมาณ 200 คนที่รวมตัวกันในกรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันที่ 29 ก.พ. เพื่อประท้วงการตัดสินใจของสมเด็จพระราชาธิบดี ตำรวจระบุว่า กำลังสืบสวนข้อความที่โพสต์บนทวิตเตอร์ที่เชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมในการประท้วง ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
มูห์ยิดดินอยู่ในพรรคเบอร์ซาตุของมหาเธร์ แต่แสดงตัวว่าพร้อมจะทำงานร่วมกับพรรคอัมโน ซึ่งเขาถูกไล่ออกมาเมื่อปี 2559 หลังจากตั้งคำถามอดีตนายกฯนาจิบ ในการบริหารกองทุน 1MDB ที่มีการทุจริต
หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี 2561 พรรคอัมโนเริ่มมีอนาคตมากขึ้นเมื่อพรรคพันธมิตรของมหาเธร์และอันวาร์พ่ายแพ้การเลือกตั้งย่อย โดยถูกวิจารณ์จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเชื้อสายมาเลย์ และอาจส่งผลกระทบมากขึ้นได้ เพราะกลุ่มคนเชื้อสายมาเลย์เป็นพลเมืองกลุ่มใหญ่ที่สุด ซึ่งมีมากถึง 32 ล้านคนในประเทศ
ทั้งนี้ พรรคอัมโน ซึ่งเคยเป็นพรรครัฐบาลที่มหาเธร์เคยเป็นผู้นำพรรคและนายกรัฐมนตรีในปี 2524 – 2546 ให้การสนับสนุนพลเมืองเชื้อสายมาเลย์
นอกจากความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้ว การเมืองในมาเลเซียยังเกี่ยวข้องกับชาติพันธุ์ ศาสนา และผลประโยชน์ของภูมิภาค โดยพลเมืองกว่าครึ่งประเทศมีเชื้อสายมาเลย์ แต่ก็มีคนจีน อินเดีย และชนกลุ่มน้อยอื่นๆด้วย.