เวียดนามแห่ลงทุนในลาว
มากกว่า 20 โครงการลงทุนจากผู้ประกอบการชาวเวียดนามที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่างมุ่งหน้าเข้ามาสู่แขวงคำม่วนในลาว และอยู่ในระหว่างการดำเนินการอนุมัติจากทางการลาว
นายไซซะนะ กดภูทอน เจ้าหน้าที่อาวุโสจากฝ่ายวางแผนและการลงทุนของแขวงคำม่วนกล่าวเมื่อวันที่3 พ.ค.ว่า การลงทุนของนักธุรกิจเวียดนามกำลังบูมในแขวงคำม่วน โดยเฉพาะด้านเหมืองแร่
“ มีนักลงทุนเวียดนามยื่นคำขออนุมัติโครงการขนาดใหญ่แห่งใหม่ถึง 20 โครงการ ที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเรากำลังพิจารณาถึงจุดประสงค์ที่หลากหลายของคำขอของเขา โดยเฉพาะธุรกิจเหมืองแร่ ” เขากล่าว
“ มี 2 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ชาวเวียดนามมาลงทุนที่ลาว ข้อแรกคือแขวงคำม่วนของลาวมีปริมาณทรัพยากรธรรมชาติอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้ง แร่ธาตุโปแตสเซียม ตะกั่ว และทองคำ ข้อสองคือลาวและเวียดนามเป็นเพื่อนบ้านกัน ซึ่งจะทำให้กระบวนการนำเข้าและส่งออกง่ายขึ้น ”
เวียดนามเป็นนักลงทุนต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในแขวงคำม่วน รองจากจีน จนถึงตอนนี้ มีทั้งหมด 19 โครงการด้วยมูลค่ามากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ขับเคลื่อนโดยนักลงทุนเวียดนามโดยส่วนใหญ่ของการลงทุนเป็นธุรกิจเหมืองแร่ โดยเฉพาะการขุดแร่โปแตสเซียม ตะกั่ว และแร่ธาตุอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การส่งออกไม้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับความนิยมตั้งแต่ทางแขวงคำม่วนต้องปฏิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีมาตรา 15 ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยเป็นคำสั่งที่ห้ามการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ทุกรูปแบบ รวมถึงไม้และท่อนซุง นับเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญของทางภาครัฐในการต่อสู้ปราบปรามการลักลอบค้าไม้เถื่อนผิดกฎหมาย
ขณะที่การทำเหมืองแร่ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติในแขวงนี้ และเกษตรกรรมยังไม่โตพอเนื่องจากมีนักลงทุนเพียง 2 – 3 รายที่สร้างโรงงานเพื่อแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อส่งออก
นักวิจารณ์กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่น่าพอใจมากขึ้นและสร้างแรงจูงใจเพื่อเพิ่มปริมาณการลงทุนและส่งออกในภาคเกษตรกรรม ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวเพราะแร่ธาตุย่อมจะต้องหมดไปในวันหนึ่ง
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา การลงทุนจากเวียดนามลดลงเล็กน้อยเนื่องจากผู้ประกอบการจำนวนมากประสบกับปัญหาทางการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน
ในระหว่างการเยือนลาวเป็นครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุกแห่งเวียดนาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากคำเชิญของนายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิดของลาว ทั้งสองได้เป็นพยานในการส่งสัญญาณที่จะทำข้อ 9 ข้อตกลงใหม่ โดยหนึ่งในนั้นคือโครงการท่าเรือหวุงอาง ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนในจังหวัดฮาทินห์ของเวียดนาม
ทั้งนี้ ท่าเรือหวุงอางแห่งนี้จะเป็นเส้นทางที่ลัดสั้นที่สุดในการส่งออกสินค้าจากลาวออกทะเลไปเวียดนามและจีน.
