ซูจีโต้ไม่ได้กวาดล้างชนกลุ่มน้อย
นางอองซาน ซูจีปฏิเสธว่าไม่มีการกำจัดชาวมุสลิมชนกลุ่มน้อยในเมียนมา ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี หลังจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเห็นพ้องที่จะมีการสืบสวนข้อกล่าวหาที่มีต่อกองทัพ
“ ดิฉันไม่คิดว่ามีการกวาดล้างชนกลุ่มน้อย ดิฉันคิดว่า การกวาดล้างเป็นคำที่แรงเกินไปที่จะใช้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น” นางซูจีกล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา
รัฐบาลของเธอที่มีการทำงานมาครบ 1 ปีต้องเผชิญกับการประณามจากนานาชาติจากวิธีการที่ปฏิบัติต่อชาวมุสลิมโรฮิงญาในประเทศ ซึ่งถูกมองมาโดยตลอดว่าเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังคลาเทศ ทำให้คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมีมติในเดือนมี.ค.ให้มีการสืบสวนในประเด็นการละเมิดสิทธิของชนกลุ่มน้อยในเมียนมา
โดยกระบวนการของคณะทำงานที่มีสำนักงานอยู่ในเมืองเจนีวาจะมีการตรวจสอบข้อกล่าวหาในประเด็นการทรมาน ฆาตกรรมและข่มขืนชนกลุ่มน้อยโดยกองทัพเมียนมา
หัวหน้าพรรค NLD กล่าวว่า มีความเป็นปรปักษ์มากมายในรัฐยะไข่ ที่ซึ่งมีชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่มากกว่า 1 ล้านคน
“ นี่เป็นเรื่องของชาวมุสลิมที่ฆ่ามุสลิมกันเองด้วย ถ้าพวกเขาคิดว่า มีใครที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ไม่ใช่แค่ประเด็นการกวาดล้าง แต่เป็นเรื่องของประชาชนที่มีความแตกต่างและแตกแยก ที่เราพยายามประสานให้มีความใกล้ชิดกันให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และไม่ขยายให้มันถ่างกว้างออกไป”
เมียนมาได้มีการสืบสวนเหตุการณ์ในประเทศในอาชญากรรมในรัฐยะไข่และแต่งตั้งให้โคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติเป็นหัวหน้าคณะกรรมการที่ทำงานในการประสานฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิม
นางซูจียืนยันว่า กองทัพไม่ได้กระทำการข่มขืน ปล้นทรัพย์ และทรมานชาวมุสลิม
ชาวมุสลิมโรฮิงญาเกือบ 75,000 คนอพยพลี้ภัยไปบังคลาเทศหลังจากกองทัพเมียนมาออกปฏิบัติการในรัฐยะไข่ เพื่อเป็นการตอบโต้ที่ชาวโรฮิงญาสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจในเดือนต.ค. ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ชาวโรฮิงญาที่ลี้ภัยกล่าวกับยูเอ็นว่า ทหารเมียนมาสังหารเด็กทารกหลายคนต่อหน้าแม่ๆของพวกเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้างชาวโรฮิงญา
“ ถ้าพวกเขากลับมา พวกเขาจะปลอดภัย” นางซูจี กล่าวยืนยันถึงสถานะของชาวมุสลิมโรฮิงญา.