กัมพูชาวอนสหรัฐฯ ยกหนี้ให้
ในระหว่างสงครามเวียดนาม สหรัฐฯ ให้กัมพูชายืมเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมาถึงตอนนี้ สหรัฐฯ ต้องการเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย
หลายทศวรรษที่ผ่านมา กัมพูชาปฏิเสธที่จะจ่ายหนี้ ซึ่งตอนนี้มีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยกัมพูชากล่าวว่า สหรัฐฯ ติดหนี้ด้านจริยธรรมกับกัมพูชาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศในช่วงสงคราม แต่ทางวอชิงตันแถลงว่า เงินกู้ก็คือเงินกู้
จนถึงตอนนี้ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ซึ่งเป็นที่นิยมชมชอบของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้อุทธรณ์ขอให้สหรัฐฯ ยกหนี้ให้กับกัมพูชา
อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์กัมพูชาเดลี่ ผู้นำกัมพูชากล่าวเมื่อเดือนก.พ.ว่า “ โอ อเมริกาและท่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ คุณโจมตีเราและยังต้องการเงินจากเราอีก”
ในระหว่างปี 2508 – 2516 ในช่วงการทำสงครามที่มีทีท่าว่าสหรัฐฯ กำลังจะแพ้ในเวียดนาม สหรัฐฯ ได้ทิ้งระเบิดประมาณ 500,000 ตันลงบนพื้นที่ทางตะวันออกของกัมพูชา ซึ่งเป็นความพยายามที่จะตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงและอาวุธของพวกเวียดกง
ในปี 2512 ภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน สหรัฐฯ ได้ขยายการโจมตีเป็นการทิ้งระเบิดแบบปูพรม เท่ากับเป็นการซื้อเวลาให้กองทัพสหรัฐฯ ถอนกำลังออกจากเวียดนาม ขณะที่คอมมิวนิสต์เขมรแดงทำสงครามเป็นกบฎกับรัฐบาลกัมพูชา
ชาวนาจำนวนมากอพยพหนีตายจากการต่อสู้และระเบิด ต่างละทิ้งไร่นาเพื่อเดินทางเข้าเมืองหลวงคือกรุงพนมเปญ อาหารขาดแลนอย่างรุนแรง สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนรัฐบาลที่นำโดยนายพลลอน นอลซึ่งต่อต้านฝ่ายกบฎคอมมิวนิสต์และได้ให้เงินกู้ยืมจำนวน 274 ล้านดอลลารฺ์สหรัฐฯ เพื่อซื้อข้าว แป้งสาลี น้ำมันและฝ้ายจากสหรัฐฯ
ทางกัมพูชาโต้แย้งว่า เงินกู้เป็นเรื่องไร้เหตุผลเพราะรัฐบาลของนายพลลอน นอลได้โค่นล้มเจ้านโรดม สีหนุและยึดอำนาจการปกครองอย่างผิดกฎหมาย แต่กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงว่า ระบบการเงินระหว่างประเทศจะล่มสลาย หากรัฐบาลไม่สามารถรับผิดชอบกับหนี้ที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ได้
ทั้งนี้ กัมพูชาโต้แย้งสหรัฐฯว่า ไม่สามารถจ่ายหนี้จำนวนนี้ได้
จากหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก กัมพูชายกสถานะมาเป็นประเทศรายได้ปานกลางค่อนข้างน้อยในปีที่แล้ว จากมูลค่าจีดีพีประมาณ 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อ้างอิงจากกองทุนการเงินระหว่างประทศ หรือไอเอ็มเอฟ
ผศ.โซฟาล เอียร์ แห่ง Occidental College ซึ่งศึกษาด้านการปกครองในกัมพูชากล่าวว่า การขอร้องจากผู้นำกัมพูชาเป็นเรื่องหน้าซื่อใจคด เนื่องจากมีการทุจริตฉ้อฉลประมาณ 10% ของตัวเลขจีดีพีของกัมพูชา เขาสรุปว่า “ นี่เหมือนกับหลายกรณีที่ผู้มีอำนาจทั้งหลายอ้างว่าประเทศยากจน ในขณะที่ตัวเองนั่งรถหรูเบนท์ลีย์ และเมอร์เซเดส S600”.