ดูเตอร์เตโกรธอียู
เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์แสดงอาการโมโหฉุนเฉียวกับคำวิจารณ์จากสหภาพยุโรปที่มีต่อนโยบายการปราบปรามยาเสพติดที่รุนแรงของเขา โดยกล่าวว่า เขาอยากจะตบผู้นำในสหภาพยุโรป (EU)
นับเป็นครั้งล่าสุดที่ผู้นำฟิลิปปินส์แสดงความคิดเห็นต่อต้านสหรัฐฯ อียูและองค์การสหประชาชาติ ขณะที่กล่าวยกย่องชื่นชมจีนและรัสเซีย
“ พวกคุณเข้ามาสิ จะได้คุยกัน เพราะผมอยากตบพวกคุณ ” ประธานาธิบดีดูเตอร์เตกล่าวสุนทรพจน์ในระหว่างการฉลองวันสตรีแห่งชาติที่ทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา
เขากล่าวเยาะเย้ยอียูที่แนะนำฟิลิปปินส์ให้สร้างคลินิกบำบัดยาเสพติดเหมือนในประเทศอื่นๆ อย่างเช่นโคเคน และเฮโรอีนเหมือนในฮอลแลนด์
ในสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำฟิลิปปินส์โกรธเกรี้ยวอียูว่า เป็นพวกเสแสร้งหลอกลวงและด่าอียูด้วยคำหยาบคายที่แนะนำให้ฟิลิปปินส์สร้างศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาที่จะใช้เป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
มีรายงานว่า ประชาชนชาวฟิลิปปินส์กว่า 8,000 คนถูกสังหารหลังจากประธานาธิบดีดูเตอร์เตเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศในวันที่ 30 มิ.ย.ปี 2559 โดยเป็นการถูกวิสามัญจากตำรวจถึง 1 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการป้องกันตัวในระหว่างปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด
ทั้งนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศว่า ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเสียชีวิตที่เป็นปริศนาถึง 1 ใน 3 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด
โดยผู้นำฟิลิปปินส์ตำหนิอียูอย่างรุนแรงที่เชื่อในรายงานของกลุ่มองค์กรเอกชนที่ไม่ใช่ภาครัฐที่กล่าวหาเขาในการปราบปรามที่ทำให้มีการสังหารผู้คนครั้งใหญ่
“ ถึงแม้จะเป็นแค่โรคลมบ้าหมู พวกนี้ก็ไม่เชื่อผมอยู่ดี ” เขากล่าว ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ฟังอย่างเกรียวกราว
ประธานาธิบดีดูเตอร์ยังคุยโวถึงความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นใหม่กับจีน ซึ่งทั้งสองประเทศเคยมีปัญหาระหว่างกันจากกรณีพิพาทเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ก่อนที่เขาจะเข้ามารับตำแหน่งและสำหรับรัสเซีย เขากล่าวว่า เขามีแผนจะเจรจาให้เกิดความร่วมมือกันให้กลายเป็นประตูการค้าสู่ยุโรปตะวันออก.