ซูจีจ่อขึ้นศาลโลก โต้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา
ย่างกุ้ง (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 20 พ.ย.รัฐบาลเมียนมาระบุว่า นางอองซาน ซูจีจะเดินทางไปศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ( International Court of Justice หรือ ICJ ) เพื่อให้การโต้แย้งในคดีที่เมียนมาถูกกล่าวหาจากแกมเบียว่า กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา
ชาวโรฮิงญากว่า 700,000 คนต้องอพยพจากรัฐยะไข่ในเมียนมาข้ามพรมแดนไปประเทศเพื่อนบ้านอย่างบังคลาเทศ ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อหนีให้พ้นจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของทหารเมียนมา ซึ่งคณะสอบสวนของสหประชาชาติระบุว่า “ มีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” โดยเมียนมา ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ ปฏิเสธข้อกล่าวหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ทั้งนี้ แกมเบีย ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ในแอฟริกาที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ได้ยื่นฟ้อง หลังจากชนะได้รับการสนับสนุนจากองค์การความร่วมมืออิสลาม ( Organisation for IslamicCooperation หรือ OIC ) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 57 ประเทศ มีเพียงประเทศเท่านั้นที่สามารถยื่นฟ้องอีกประเทศหนึ่งได้ที่ ICJ
“ เมียนมามีนักกฎหมายระหว่างประเทศที่จะขึ้นให้การโต้แย้งในคดีที่แกมเบียยื่นฟ้องมา”
ทางกระทรวงที่นางซูจีทำงานโพสต์บนเฟซบุ๊ก “ ท่านที่ปรึกษาแห่งรัฐ ซึ่งมีอำนาจในการกำกับดูแลกิจการต่างประเทศ จะเป็นผู้นำคณะไปกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเมียนมาที่ ICJ ”
นายพล Zaw Min Tun โฆษกกองทัพกล่าวกับสื่อรอยเตอร์ว่า มีการตัดสินใจหลังจากทางกองทัพมีการปรึกษาหารือกับรัฐบาล “ กองทัพจะประสานความร่วมมือกับรัฐบาล และเราจะปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาล”
ขณะที่โฆษกของพรรคสันนิบาตประชาธิปไตย (NLD) ของนางซูจีระบุว่า เธอจะขึ้นให้การโต้แย้งในศาลด้วยตัวเอง
“ พวกเขากล่าวหาว่า ท่านซูจีเพิกเฉย ไม่กล่าวถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชน” Myo Nyunt โฆษกพรรคระบุ “ และกล่าวหาว่าท่านไม่พยายามจะหยุดการละเมิดสิทธิมนุษยชน ท่านตัดสินใจจะไปขึ้นให้การในศาลด้วยตัวเอง”
ทั้งแกมเบียและเมียนมา ต่างลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 2491 ซึ่งไม่เพียงห้ามไม่ให้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เท่านั้น แต่ยังบังคับให้ประเทศสมาชิกที่ลงนาม คุ้มครองและลงโทษอาชญากรรมที่เกิดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ด้วย
ทาง ICJ ระบุว่าจะมีการไต่สวนคดีนี้ครั้งแรกในวันที่ 10 – 12 ธ.ค. นี้