สิงคโปร์ขึ้นแท่นความสามารถในการแข่งขันสูงสุด
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงที่สุดในโลก จากกาารจัดอันดับล่าสุด
โดยสิงคโปร์ได้คะแนนสูงถึง 84.8 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนน เอาชนะสหรัฐฯ แชมป์เก่าขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกจากการจัดอันดับทั้งหมด 141 ประเทศ โดยในปีที่แล้ว สหรัฐฯครองอันดับ 1 ด้วยคะแนน 83.7 คะแนน
“ สิงคโปร์พัฒนาขึ้นจากฐานคะแนนเดิมที่สูงอยู่แล้ว” World Economic Forum ระบุเมื่อวันที่ 9 ต.ค. โดยเสริมว่า สิงคโปร์ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็น 1 ใน 12 ตัวชี้วัดหลักของดัชนี
โดยสิงคโปร์ยังเป็นอันดับ 1 ในสองตัวชี้วัดหลักอื่นๆ คืออายุขัยสุขภาพของพลเมือง และตลาดแรงงาน ขณะที่ยังได้คะแนนสูงในด้านอื่นด้วย ทั้งระบบการเงิน ประสิทธิภาพของตลาด และเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค
“ สิงคโปร์อยู่ในอันดับ 2 ด้านคุณภาพของสถาบันสาธารณะ ตามหลังฟินแลนด์ แต่การดำเนินการยังคงถูกบ่อนทำลายด้วยหลักการระบบถ่วงดุลอำนาจที่จำกัด” รายงานระบุ
“ สิงคโปร์อยู่อันดับ 124 ในดัชนีเสรีภาพสื่อ และขาดข้อผูกพันในการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
รายงานยังเสริมว่า สิงคโปร์จำเป็นต้องส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการและปรับปรุงฐานทักษะเพื่อกลายเป็นฮับนวัตกรรมทั่วโลก
โดยระบุว่า สหรัฐฯได้คะแนนดีขึ้นในหัวข้อการแข่งขันภายในประเทศ และการเปิดกว้างทางการค้า ซึ่งสูงกว่าคะแนนที่ได้ในปีที่แล้ว
“ ถึงแม้สหรัฐฯจะอ่อนแรงลงโดยรวมในปีนี้ แต่สหรัฐฯ ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงที่สุดในโลก ยังคงเป็นแหล่งกำเนิดนวัตกรรม โดยอยู่อันดับ 2 ในการเป็นเสาหลักศักยภาพด้านนวัตกรรม และเป็นอันดับ 1 ในแง่ความสามารถเชิงพลวัตทางธุรกิจ และยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการเงินที่มีพลวัตสูงสุดในโลก”
ฮ่องกงขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ในปีนี้จากเดิมอันดับ 7 ในปีที่แล้ว โดยรายงานระบุว่าฮ่องกงได้คะแนนนำเป็นที่ 1 ใน 4 หัวข้อหลักคือ เสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค , สุขภาพ , ระบบการเงิน และตลาดการผลิต
เริ่มมีการเผยแพร่ข้อมูล Global Competitiveness Report ในปี 2523 เพื่อเป็นการประเมินประจำปีของแรงขับเคลื่อนผลผลิต และการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวโดย 10 ประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงที่สุดในโลกคือ
- สิงคโปร์ 2. สหรัฐฯ 3. ฮ่องกง 4.เนเธอร์แลนด์ 5.สวิตเซอร์แลนด์ 6.ญี่ปุ่น 7.เยอรมนี 8. สวีเดน 9.สหราชอาณาจักร 10.เดนมาร์ก