มาเลย์สั่งปรับน้อง ‘นาจิบ’ เอี่ยวเงินกองทุน 1MDB
กัวลาลัมเปอร์ : เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ประธานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตของมาเลเซียระบุว่า ได้สั่งปรับน้องชายอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค รวมถึงอีกหลายบุคคลและหลายบริษัทในข้อหารับเงินจากกองทุนฉาว 1MDB
คณะทำงานการสอบสวนจากมาเลเซียและสหรัฐฯระบุว่ามีการยักยอกเงินอย่างผิดกฎหมายจำนวน 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 137,610 ล้านบาท ) จากกองทุน 1Malaysia Development Berhad ( 1MDB) ซึ่งอดีตนายกฯนาจิบก่อตั้งขึ้นในปี 2552
อดีตนายกฯนาจิบ ซึ่งแพ้การเลือกตั้งในปีที่แล้ว กำลังถูกดำเนินคดีในชั้นศาลจากหลายข้อหา ทั้งการยักยอก ทุจริตและฟอกเงินจากเงินกองทุน1MDB แต่เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ลาธีฟา โคยา ประธานคณะกรรมการปราบปรามทุจริตของมาเลเซีย (MACC) กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางหน่วยงานตั้งเป้าจะดึงเงินจำนวน 420 ล้านริงกิต ( 3,095 ล้านบาท) กลับมาจากหลายบุคคลและบริษัท ซึ่งรับเงินที่ถูกฟอกอย่างผิดกฎหมายผ่านบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยงกับนาจิบ
“เราได้ออกหมายเตือนบุคคลและบริษัททั้งหมดเพื่อให้พวกเขาจ่ายค่าปรับ” ลาธีฟา กล่าว โดยเสริมว่าพวกเขาอาจต้องจ่ายค่าปรับ 2.5 เท่าจากจำนวนเงินที่พวกเขารับมาจากกองทุน 1MDB
โดยบุคคลที่ถูกสั่งปรับคือนาซีร์ ราซัค น้องชายของนาจิบ อดีตประธานธนาคาร CIMB ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของมาเลเซีย และชารีร์ อับดุล ซามาด อดีตประธาน Felda ซึ่งเป็นบริษัทปาล์มน้ำมันของรัฐ
ลาธีฟาระบุว่า นาซีร์ น้องชายของนาจิบ รับเงินไปประมาณ 25.7 ล้านริงกิต ( 189 ล้านบาท ) ในรูปแบบเช็ค จากกองทุน 1MDB
นอกจากนี้ เงินที่ถูกยักยอกจากกองทุนยังได้ถ่ายโอนไปยังหลายบริษัท หลายพรรคการเมืองและองค์กรที่เชื่อมโยงกับนาจิบ จากรายชื่อของ MACC
“ ยังไม่หมดแค่นี้ เรายังมีอีก” ลาธีฟาระบุ โดยเสริมว่าการสอบสวนเกี่ยวข้องกับ 80 บริษัทและบุคคล
ในปี 2558 นาซีร์หายตัวไปหลังจากสื่อวอลสตรีทเจอร์นัลรายงานว่า เขาได้รับเงินประมาณ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากนาจิบ และกระจายเงินกองทุนไปให้นักการเมืองก่อนการเลือกตั้งในปี 2556
มีการพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับการโอนเงินที่สรุปว่า นาซีร์ไม่ได้ใช้ตำแหน่งในการประพฤติมิชอบ และไม่มีการใช้เงินของธนาคาร CIMB ในทางที่ผิด ในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งประธานธนาคาร เขาลาออกในปีที่แล้วหลังจากทำงานที่ธนาคารนี้มานานกว่า 3 ทศวรรษ
หลังจากชนะการเลือกตั้งในปี 2561 รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดได้รื้อคดีกองทุน 1MDB มาสอบสวนใหม่ มีการตั้งข้อหากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายราย และฟ้องยึดทรัพย์เพื่อนำเงินของกองทุน 1MDB กลับคืนมา
ตั้งแต่ปี 2559 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ฟ้องยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 51,986 ล้านบาท ) ที่ซื้อด้วยเงินจากกองทุน 1MDB ซึ่งมีทั้งเครื่องบินส่วนตัว อสังหาริมทรัพย์และเครื่องประดับหรูหราราคาแพง
ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐฯเริ่มคืนเงินให้มาเลเซียประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 6,116 ล้านบาท ) ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินที่ยึดคืนมา.