กลุ่มติดอาวุธโจมตีเส้นทางการค้าเมียนมา

เส้นทางการค้ามัณฑะเลย์-มูเซ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าสำคัญระหว่างเมียนมากับจีนถูกปิดหลังจากการโจมตีเมื่อเช้าวันที่ 15 ส.ค.จาก 3 กลุ่มพันธมิตรตอนเหนือคือกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (MNDAA) , กองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติดาราอั้ง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA)
จากข้อมูลของประชาชนในพื้นที่ ตำรวจเข้าปิดกั้นพื้นที่จาก Bant Bwe ไป Thibaw ก่อนจะเข้าไปเมืองพินอูลวิน มีการสั่งห้ามไม่ให้ยานพาหนะรวมถึงรถบรรทุกที่ขนส่งสินค้าจากมัณฑะเลย์ไปมูเซ โดยให้หยุดที่ด่าน Bant Bwe
กองกำลังกลุ่มติดอาวุธจาก TNLA,MNDAA และ AA มีการร่วมโจมตีหน่วยงานรักษาดินแดนและด่านในเมืองพินอูลวิน และด่านตำรวจ Gote Twin ซึ่งเป็นด่านตรวจสำคัญตลอดแนวเส้นทางการค้า
มีการวางระเบิดสะพาน Gote Twin ในเมือง Nawngcho ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย โดย U Myo Thant Aung อาสาสมัครในพื้นที่ซึ่งช่วยเจ้าหน้าที่ในการกู้ภัยหลังถูกโจมตีระบุว่า สะพานถูกระเบิดเสียหายมาก และรถไม่สามารถผ่านได้
“ พวกเราอยู่ในเมืองช่วงนั้น พวกเขาทำลายสะพานพังจนจักรยานยังผ่านไม่ได้รถหลายคันถูกทิ้งอยู่”
คนขับรถบรรทุกคนหนึ่งระบุว่า รถยนต์หลายร้อยคันที่ขนสินค้ามาจากเมืองมูเซค้างเติ่งอยู่บนสะพานใกล้ทางเข้า Thibaw “ตำรวจสั่งให้รถหยุดไม่ให้เข้า Thibaw และ Kyaukme เพราะอันตรายเกินไป”
ผลกระทบจากการโจมตีทำให้แนวโน้มการค้าชายแดนมืดมน ทั้งที่ใกล้จะถึงเดือนก.ย.ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การค้าคึกคัก “ เหตุการณ์ความไม่สงบไม่ดีเลยสำหรับการทำการค้า ” ผู้ประกอบการรายหนึ่งกล่าว
ที่ผ่านมา จีนมีการปราบปรามการค้าชายแดนผิดกฎหมายตลอดแนวพรมแดนมูเซ รวมถึงเข้มงวดกับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากเมียนมา ส่งผลกระทบกับการส่งออกของเมียนมาในปีนี้
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ยอดส่งออกลดลง 28.4% ลงมาอยู่ที่ 2,740 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 85,104 ล้านบาท ) จาก 1 ต.ค. 2561 – 1 ส.ค.ปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
มูลค่าการค้าโดยรวมผ่านเมืองมูเซอยู่ที่ 4,420 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 137,285ล้านบาท ) ลดลงเกือบ 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่น
ทั้งนี้ เส้นทางการค้ามัณฑะเลย์ – มูเซจะมีรถบรรทุกผ่านประมาณ 1 พันคันต่อวัน และเคยเป็นเป้าหมายในการโจมตีมาก่อน โดยการโจมตีครั้งล่าสุดเมื่อปี 2559 ทำให้การค้าหยุดชะงักไปนานถึง 10 วัน.