ลาวขอเวียดนามช่วยหาเหยื่อน้ำท่วมฉับพลัน

เจ้าหน้าที่ในเมืองเวียงไซ ขอความช่วยเหลือจากเวียดนามในการตามหาผู้สูญหาย 7 ราย จากเหตุการณ์พายุวิภาเข้าถล่มลาว
เจ้าหน้าที่ในแขวงหัวพันระบุว่า ผู้สูญหายทั้งสิ้น 7 ราย เป็นผู้ชาย 3 ราย และผู้หญิงอีก 4 ราย โดยมีอายุตั้งแต่ 4 เดือน จนถึง 47 ปี ที่ถูกพัดไปกับน้ำท่วมฉับพลันหลังพายุวิภาเข้าทลายลำน้ำเซีย เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
เมืองเวียงไซดำเนินการตามหาผู้สูญหายไปตามกระแสน้ำจนถึงชายแดนลาว-เวียดนาม แต่ก็ไม่พบตัวเหยื่อหรือผู้สูญหายแต่อย่างใด
กระแสน้ำดังกล่าวข้ามผ่านชายแดนเวียดนามไปยังเขตกวานเซิน ใจกลางจังหวัดทัญฮว้า โดยเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของเวียงไซได้ส่งจดหมายขอให้เขตกวานเซินช่วยตามหาผู้สูญหายจากเหตุอุทกภัยด้วย
พายุวิภาเข้าโจมตีจังหวัดทัญฮว้ารุนแรงที่สุดในระดับท้องถิ่น ซึ่งส่งผลให้คืนวันที่ 2 ส.ค. เกิดเหตุดินถล่มทางตอนเหนือของจังหวัดกว๋างนิญ ก่อนที่พายุจะอ่อนตัวลงกลายเป็นพายุหมุนเขตร้อน และมุ่งหน้าเข้าสู่ภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ทำให้มีฝนตกหนักรุนแรงในจังหวัดทางภาคเหนือและภาคกลางตอนเหนือ
พายุหมุนเขตร้อนได้อ่อนตัวลงต่อเนื่องจนกลายเป็นคลื่นความกดอากาศต่ำเมื่อเคลื่อนตัวไปทางเหนือของลาว
จำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุวิภาในเวียดนาม เพิ่มขึ้นเป็น 10 ราย ในขณะที่ยังมีผู้สูญหายจากเหตุอุทกภัยอีก 11 ราย
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. น้ำท่วมฉับพลันที่เข้าท่วมหมู่บ้านซานาในจังหวัดทัญฮว้า ได้พัดประชาชน 15 รายไปตามกระแสน้ำ ภายหลังช่วยเหลือได้เพียงแค่ 5 ราย
เวียดนามเผชิญกับฤดูมรสุมตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค. โดยในปีก่อน เกิดพายุขึ้น 9 ครั้ง และคาดว่าในปีนี้จะมีพายุที่เข้าโจมตีเวียดนามอีก 4 ลูกด้วยกัน
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำท่วม พายุ และดินถล่ม คร่าชีวิตประชาชนไปถึง 181 ราย ในปีก่อน ทำให้มีผู้สูญหาย 37 ราย และก่อให้เกิดความเสียหายมากถึง 20 ล้านล้านดง หรือราว 26,479 ล้านบาท