กัมพูชาส่งขยะกลับสหรัฐฯ-แคนาดา 1,600 ตัน
พนมเปญ : เจ้าหน้าที่กัมพูชาระบุเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้มีการเตรียมส่งขยะพลาสติกหนัก 1,600 ตัน ในคอนเทนเนอร์ส่งสินค้ากลับไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา หลังจากที่กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พากันต่อต้านการทิ้งขยะเช่นนี้
หลังจากที่จีนตัดสินใจแบนการนำเข้าขยะพลาสติกในปีก่อน ทำให้กระบวนการรีไซเคิลขยะทั่วทั้งโลกเกิดความโกลาหล และยังทำให้ประเทศที่พัฒนาแล้วขาดประเทศปลายทางสำหรับทิ้งขยะ
Neth Pheaktra โฆษกกระทรวงสิ่งแวดล้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อ AFP ว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค. เจ้าหน้าที่พบขยะจำนวนมากในตู้คอนเทนเนอร์สำหรับขนส่งทางทะเลในเมืองท่าเรือ จังหวัดสีหนุวิลล์ และได้เตรียมดำเนินการส่งขยะเหล่านี้กลับไปยังประเทศต้นทาง
เขาเสริมว่า “กัมพูชาไม่ใช่ถังขยะเทคโนโลยีล้าสมัยที่ใครจะมาทิ้งขยะได้” เขาระบุว่า มีตู้คอนเทนเนอร์กว่า 70 ตู้ โดยทั้งหมดเต็มไปด้วยขยะพลาสติกที่เดินทางมาจากสหรัฐฯ โดยอีก 13 ตู้ ถูกส่งมาจากแคนาดา
ภาพของเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ที่เต็มไปด้วยขยะพลาสติก ทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียชาวกัมพูชาไม่พอใจอย่างมาก
Preap Kol ผู้บริหารองค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติกัมพูชา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า การส่งขยะ(จากประเทศต้นทางมายังกัมพูชา)เป็นการ “ดูถูกอย่างรุนแรง”
ขยะจำนวนมากกำลังส่งผลกระทบกับชายฝั่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกันกับการต่อต้านการจัดการขยะส่งออกที่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ก่อนหน้านี้ ประเทศอินโดนีเซียประกาศว่าภายในเดือนนี้ จะส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่มีขยะอยู่คืนให้กับประเทศพัฒนาแล้วหลาย ๆ แห่ง ทั้งสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี และฮ่องกง
ในขณะเดียวกัน เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มาเลเซียระบุว่าจะส่งขยะพลาสติก 450 ตัน คืนไปยังประเทศต้นทางให้หมด
อ้างอิงจากกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ทุกปีมีการผลิตพลาสติกมากถึง 300 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะถูกทิ้งในหลุมฝังกลบ หรือเป็นมลพิษทางทะเล ซึ่งได้กลายเป็นวิกฤติระดับสากลที่มากขึ้นเรื่อย ๆ