ผู้นำอินโดฯเน้นลงทุนมากขึ้นในสมัยที่ 2
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ซึ่งชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 กำหนดกรอบวิสัยทัศน์การบริหารของรัฐบาลว่า จะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น และมีการลงทุนมากขึ้นเพื่อสร้างงานและการเติบโตให้ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผลกระทบจากราคาโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำ ทำให้อินโดนีเซียยากลำบากในการหนุนตัวเลขการเติบโตให้มากกว่า 5% ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แม้จะมีการเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อปลดล็อกการเติบโตที่เป็นคอขวด และกระจายความมั่งคั่งออกไปนอกพื้นที่เกาะชวาที่มีประชากรหนาแน่น
ในการกล่าวกับผู้สนับสนุนหลายพันคน ประธานาธิบดีวิโดโดระบุว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของเขาในสมัยแรก ช่วยเร่งเครื่องการเชื่อมโยงท่าเรือและท่าอากาศยานทั่วประเทศไปยังศูนย์กลางส่วนเกษตรกรรมและการท่องเที่ยว
โดยผู้นำอินโดนีเซียเน้นย้ำถึงแผนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในประเทศที่ยังล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนากำลังแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งรวมถึงการลงทุนในโรงเรียนอาชีวะ และสร้างสถาบันเพื่อบริหารจัดการกับผู้มีทักษะฝีมือในอินโดฯ รวมถึงประสานความร่วมมือกับกลุ่มผู้ที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ
ประธานาธิบดีวิโดโดยังได้สัญญาที่จะเปิดกว้างโอกาสในการลงทุนในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา มีความเข้มงวดและเน้นการปกป้องผลประโยชน์จากทุนต่างชาติ
“ อย่ากลัวการลงทุน มันจะสร้างการจ้างงานมากเท่าที่จะเป็นไปได้ ” เขากล่าว
แม้อินโดฯจะมีพัฒนาการ และขยับอันดับขึ้นในดัชนีความง่ายในการทำธุรกิจของธนาคารโลก แต่ผู้นำอินโดฯ ชี้ว่ายังคงมีอุปสรรคมากมายที่ขัดขวางการเริ่มต้นธุรกิจของบริษัทต่างชาติ
ในเดือนพ.ค. วิโดโดระบุว่า ได้ลดข้อบังคับในการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าจาก 259 ข้อ ลงมาเหลือ 58 ข้อ แต่เขาต้องการให้เหลือแค่ 5 ข้อเท่านั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เขาสัญญาจะปฏิรูประบบบริหารแบบราชการที่ล่าช้า
“ เร่งความเร็วการให้บริการ เร่งออกใบอนุญาต เป็นสิ่งสำคัญในการปฏิรูประบบราชการ ” วิโดโดกล่าว “ หากผมเห็นว่าขาดประสิทธิภาพ ผมจะย้าย หรือไล่เจ้าหน้าที่คนนั้นออก”
โดยวิโดโดยังได้เรียกร้องให้ชาวอินโดฯ มีความเป็นเอกภาพ หลังการเลือกตั้งที่สร้างความแตกแยกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
เมื่อเดือนมิ.ย.ศาลรัฐธรรมนูญของอินโดฯมีคำตัดสินยืนยันชัยชนะของวิโดโดในการเลือกตั้งเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยยกคำร้องของผู้แข่งขันคืออดีตนายพลปราโบโว ซูเบียนโต
และเมื่อวันที่ 13 ก.ค.เขาได้พบกับปราโบโวเป็นครั้งแรกต่อสาธารณะ นับตั้งแต่เขาชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 โดยระหว่างนั้น ปราโบโวได้กล่าวแสดงความยินดีกับวิโดโดและเรียกร้องให้ประชาชนมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน
“ ความรับผิดชอบของท่านประธานาธิบดีนั้นยิ่งใหญ่มาก ในนามของประชาชน เราพร้อมที่จะช่วยเมื่อท่านต้องการ ” ปราโบโวกล่าวกับผู้สื่อข่าว.