มหาเธร์ยืนยันช่วยโรฮิงญา
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียยืนยันจะช่วยชาวมุสลิมโรฮิงญาให้ลี้ภัยในมาเลเซีย โดยยังเรียกร้องให้บรรดาผู้นำประเทศในอาเซียน “หยุดกดขี่” ชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่ถูกขับไล่ออกมาจากเมียนมา
เมื่อปีที่แล้ว นายกฯมหาเธร์กล่าววิจารณ์ นางอองซาน ซูจี ผู้นำเมียนมาอย่างรุนแรงในระหว่างการประชุมอาเซียนที่สิงคโปร์ เพราะเธอกล่าวปกป้องกองทัพที่ปฏิบัติการปราบปรามชาวโรฮิงญา
การกล่าวประณามนางซูจีของ นายกฯมหาเธร์ ถือเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยในการประชุม 10 ประเทศของอาเซียน เพราะตามปกติแล้ว ประเทศสมาชิกต่างหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากัน
แต่วิกฤตลุกลามไปทั่วภูมิภาค เนื่องจากชาวโรฮิงญาจำนวนมากลักลอบลงเรือหลบหนีมาที่ประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนชาวโรฮิงญาที่ลอยเรือมาที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ และเชื่อว่าจะมีความเห็นอกเห็นใจมากกว่า ก่อให้เกิดความกลัวว่าจะกลายเป็นเส้นทางค้ามนุษย์เส้นทางใหม่
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.นายกฯมหาเธร์ ยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือต่อไปกับชาวโรฮิงญาที่พยายามจะหลบหนีเข้ามาทางชายฝั่ง
“พวกเขาเป็นผู้ลี้ภัย เราจะช่วยพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่เราทำได้” นายกฯ วัย 93 ปีกล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกรอบจากการประชุมธุรกิจในกรุงเทพฯ
“เราหวังว่าบางสิ่งที่เราทำได้จะเป็นการหยุดกดขี่ชาวโรฮิงญา” เขากล่าวกับสื่อ AFP
ข้อตกลงที่ให้ชาวโรฮิงญากลับคืนสู่เมียนมาหยุดชะงัก เนื่องจากไม่มีชาวโรฮิงญาเลือกที่จะเดินทางกลับเมียนมาเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย
รายงานของคณะกรรมการที่รั่วไหลเมื่อช่วงต้นเดือนมิ.ย.ทำให้เกิดการทำนายว่า กระบวนการส่งคืนชาวโรฮิงญาอาจใช้เวลานานถึง 2 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์
โดยนายกฯมหาเธร์ยังได้ตั้งข้อสงสัยเรื่องกำหนดเวลาด้วย “หากเราทำได้ภายใน 2 ปี เราจะทำ” เขากล่าว แม้จะไม่แน่ใจเกี่ยวกับสภาวะการส่งคืน
ในปี 2560 ชาวโรฮิงญากว่า 740,000 คนอพยพหลบหนีออกจากเมียนมาตั้งแต่เดือนส.ค. การหลั่งไหลข้ามพรมแดนไปบังคลาเทศเนื่องจากกองทัพใช้กำลังปราบปราม ทั้งข่มขืน สังหารหมู่ และเผาหมู่บ้าน
เมียนมาปฏิเสธที่จะให้สัญชาติ หรือ สิทธิพื้นฐาน และอ้างว่าชาวโรฮิงญาเป็นชาวเบงกาลี โดยระบุว่าชาวโรฮิงญาอพยพอย่างผิดกฎหมายเข้ามาทางบังคลาเทศ
ทีมสอบสวนของสหประชาชาติเรียกร้องให้ดำเนินคดีข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กับผู้นำทหารเมียนมา แต่นางซูจีกล่าวปกป้องการปราบปรามของกองทัพว่าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อขับผู้อพยพในรัฐยะไข่.