เมียนมาให้ต่างชาติส่งออกข้าว/โภคภัณฑ์
กระทรวงพาณิชย์เมียนมาจะอนุญาตให้บริษัทต่างชาติ หรือบริษัทร่วมทุนส่งออกอาหารและโภคภัณฑ์เป็นการเฉพาะ จากประกาศของรัฐบาลฉบับที่ 24 ของปี 2562 ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.
โดยบริษัทต่างชาติที่ได้รับการแนะนำจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องสามารถซื้อสินค้าโภคภัณฑ์จากผู้ผลิตในประเทศ ซึ่งจะได้รับใบอนุญาตให้ส่งออกสินค้าได้
เป้าหมายสำคัญคือการยกระดับคุณภาพการส่งออกของเมียนมาและส่งเสริมดีมานด์จากนานาชาติสำหรับสินค้าในประเทศ รวมถึงเพิ่มรายได้ให้กับผู้ผลิตในท้องถิ่นด้วย
กระทรวงพาณิชย์ของเมียนมาอนุญาตให้มีการส่งออกสินค้า 7 รายการ คือข้าว, เนื้อสัตว์และปลา, สินค้าเกษตรมูลค่าเพิ่ม, เนื้อไม้และกระดาษ, เมล็ดพันธุ์ , โลหะแปรรูป, ผลไม้กึ่งแปรรูปและแปรรูป และเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้
ที่สำคัญคืออนุญาตให้บริษัทต่างชาติในเมียนมาส่งออกข้าวมูลค่าเพิ่มและข้าวหัก รวมถึงถั่ว เมล็ดถั่ว และข้าวโพดด้วย
มีแนวโน้มว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นสำหรับผู้ผลิตในประเทศ เนื่องจากบริษัทต่างชาติมาพร้อมกับเงินทุนและโครงข่ายการตลาดที่มีขนาดใหญ่กว่า U Than Oo เลขานุการของ Bayintnaung Rice Commodity Market ในย่างกุ้งระบุ
“ในอีกแง่หนึ่ง จะมีผู้ซื้อมากขึ้นในตลาด ซึ่งจะดีกับเกษตรกรและผู้ผลิต ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลจะดึงดูดเงินลงทุนต่างชาติในภาคเกษตรกรรม ซึ่งสำคัญกับการเติบโตและคุณภาพการส่งออก” เขากล่าว
ทั้งนี้ เมียนมาส่งออกข้าว 1.5 ล้านตัน มูลค่า 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (14,743 ล้านบาท)
ระหว่างเดือนต.ค. 2561 – พ.ค. 2562 โดยมีการส่งออกข้าว 1 ใน 3 ไปตามชายแดนติดกับจีน ขณะที่สหภาพยุโรปและแอฟริกาคิดเป็นประมาณ 45% ของการส่งออก จากข้อมูลของสมาพันธ์ข้าวเมียนมา
เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการการลงทุนเมียนมาอนุญาตให้ Wilmar International (ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนคือ Wilmar Myanmar Riceland เพื่อผลิตขาย และจัดจำหน่ายข้าว และผลิตภัณฑ์จากข้าว ทั้งข้าวสาร แป้งข้าวเจ้า รำข้าว น้ำมันรำข้าว และแกลบที่ท่าเรือติละวาในย่างกุ้ง.