สิงคโปร์ชี้สงครามการค้าต้องใช้เวลาแก้ไข

สงครามการค้าที่ยังดำเนินอยู่ระหว่างจีนกับสหรัฐฯไม่ใช้สิ่งที่สามารถแก้ไขได้จากการประชุมเพียงครั้งเดียวระหว่างผู้นำทั้งสอง แต่เป็นเหมือนอุโมงค์ทอดยาวและจะต้องใช้เวลา นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงระบุเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.
ในการกล่าวสุนทรพจน์ในงาน Business China Awards ที่มารีนาเบย์แซนด์ นายกฯลีกล่าวว่าเขาหวังว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯและประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนจะมีโอกาสพูดคุยในประเด็นนี้ในการประชุมซัมมิตของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจ G20 และทำให้หลายอย่าง “มีทิศทางในแง่บวก” แตเสริมว่า เขาไม่ใช่คนมองในแง่ดีทั้งหมด
“ ผมคิดว่ามันเป็นอุโมงค์ที่ทอดยาว ผมหวังว่าในที่สุดแล้ว จะมีทางออก แต่ผมคิดว่ามันจะใช้เวลาสักระยะ ” ผู้นำสิงคโปร์กล่าว
โดยคำพูดของนายกฯลีมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า เขาจะตัดสินใจทำตามคำขู่ของเขาด้วยการขึ้นภาษีอย่างน้อย 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้านำเข้าจากจีน หลังการประชุมซัมมิตของกลุ่มประเทศ G20 ที่ญี่ปุ่นในวันที่ 28 – 29 มิ.ย.
“ผมไม่คิดว่า เป็นอะไรที่สามารถแก้ไขได้จากการประชุมเพียงครั้งเดียวของประธานาธิบดีทั้งสองท่าน เพราะการพูดคุยมันมาไกลกว่านั้น” นายกฯ ลีกล่าว “ ความแตกต่างระหว่างทั้งสองฝ่ายเห็นได้ชัดเจนตอนนี้ สถานะที่ยากลำบากขึ้น มีหลายอย่างที่ส่งผลต่อสาธารณะไปแล้ว มันไม่ง่ายที่จะเดินกลับมาและประนีประนอมกัน”
นายกฯลีเสริมว่า”เป็นการทดสอบพลัง” ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ โดยเขาเสริมว่า อำนาจที่ยิ่งใหญ่ต้องให้ประเทศเล็กๆ “ มีพื้นที่ที่จะเป็นมิตรกับมหาอำนาจมากกว่าเพียงประเทศเดียว” หากพวกเขาหวังที่จะมีโลกที่ผู้คนไม่ถูกกำหนดให้แตกแยกเป็นสองฝ่ายอย่างสิ้นเชิง
“ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่บีบให้คนเลือกข้าง คุณไม่ควรพูดว่า ‘ หากไม่อยู่กับเรา ก็คือเป็นศัตรูกับเรา’ ” เขากล่าว
ในแง่ของแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน นายกฯ ลีระบุว่าเศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัว แต่จีนมีแนวโน้มที่จะมี “ความเชื่อมั่นมากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย”
“ ผมคิดว่าพวกเขาเตรียมรับมือกับสภาพที่หนักหนาขึ้น” นายกฯลีกล่าว “ คุณสามารถทำอะไรได้มาก ภาครัฐสามารถใช้จ่ายงบประมาณ และพยายามทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่โดยพื้นฐานแล้ว มีข้อจำกัดอยู่ว่าคุณจะทำได้แค่ไหน”