เมียนมาลดขาดดุลการค้าได้ครั้งแรกใน 6 ปี

การขาดดุลการค้าของเมียนมา ซึ่งเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 – 2556 ประสบความสำเร็จสามารถลดลงได้เป็นครั้งแรกจากความพยายามของรัฐบาลพรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตย U Aung Htoo รมช.กระทรวงพาณิชย์รายงาน
“ เมื่อเทียบกับปีก่อน เราสามารถลดการขาดดุลการค้าลงได้ 905 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 28,462 ล้านบาท) ในวันที่ 10 พ.ค. สำหรับปีงบประมาณนี้ ” เขากล่าวในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นที่กระทรวงสารสนเทศเมื่อวันที่ 29 พ.ค.
สำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 ก.ย. มีปริมาณการส่งออก 15,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 481,185 ล้านบาท ) ขณะที่คาดการณ์ว่าการนำเข้าจะอยู่ที่ 15,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 496,910 ล้านบาท) ดังนั้น จึงคาดการณ์ว่าการขาดดุลการค้าจะอยู่ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (15,725 ล้านบาท) รมช.กระทรวงพาณิชย์รายงาน
“ แม้จะมีคำวิจารณ์เรื่องการขาดดุลการค้าของประเทศ เมียนมาเป็นประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้น จึงจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าและบริการเป็นจำนวนมาก” U Aung Htoo กล่าว โดยเสริมว่า มีเพียง 4% ของสินค้านำเข้าทั้งหมดที่เป็นสินค้าหรูหราราคาแพง
“ มีเพียง 4% เท่านั้นจากสินค้านำเข้าทั้งหมดที่เป็นสินค้าระดับหรู” เขากล่าว โดยเขาชี้ว่ารัฐบาลส่งเสริมการส่งออกเพื่อให้ตัวเลขการขาดดุลการค้าลดลง
ปีงบประมาณนี้ ปริมาณการส่งออกอยู่ที่ 10,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 319,217 ล้านบาท ) ถึงวันที่ 10 พ.ค. “การส่งออกเสื้อผ้าอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 25,160 ล้านบาท) ในปี 2558 – 2559 และตอนนี้ จำนวนสูงขึ้นเกือบสามเท่ามาอยู่ที่ 2,560 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 80,512 ล้านบาท )” U Aung Htoo กล่าว
การส่งออกสินค้าจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำก็เพิ่มขึ้นด้วย เพราะเดิมปริมาณการส่งออกของภาคส่วนนี้มีเพียง 421.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 13,253 ล้านบาท) ในปี 2557 – 2558 แต่จำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 699.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 21,984 ล้านบาท) ในปี 2560 – 2561 เพิ่มขึ้นถึง 65% “ เพราะฟาร์มปลา กุ้ง ปู พัฒนาขึ้น รายได้จากภาคส่วนนี้คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 31,450 ล้านบาท) ในปี 2563” เขากล่าว
ที่ผ่านมา มีการส่งออกข้าวประมาณ 1 ล้านตัน แต่ในปี 2560 -2561 จำนวนข้าวที่ส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านตัน และในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะส่งออกถึง 2.2 ล้านตัน อีกปัจจัยที่หนุนการส่งออกให้เติบโตคือปศุสัตว์ แม้รัฐบาลก่อนจะห้ามไม่ให้ส่งออกปศุสัตว์ที่มีชีวิต แต่รัฐบาลปัจจุบันอนุญาตเพื่อการค้า ซึ่งจนถึงตอนนี้สร้างมูลค่าประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 15,725 ล้านบาท)