แคนาดายอมขนขยะกลับจากฟิลิปปินส์
ทางการแคนาดาระบุว่า จะนำขยะหลายตันที่ทิ้งค้างในฟิลิปปินส์ขึ้นเรือกลับประเทศ หลังจากก่อให้เกิดปัญหาทางด้านการทูตระหว่างทั้งสองประเทศมานาน
แถลงการณ์จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมแคนาดาเผยแพร่ออกมาไม่นานหลังประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์ได้สั่งให้แคนาดาขนขยะจำนวนมากเหล่านี้กลับประเทศฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการประท้วงทางการทูตหลายครั้ง เหตุเพราะขยะที่แคนาดาลำเลียงมายังฟิลิปปินส์ระหว่างปี พ.ศ.2556-2557
ตามรายงานคาดว่า บริษัทเอกชนในฟิลิปปินส์จากแคนาดาจะเริ่มเตรียมการขนขยะทั้งหมดขึ้นเรือเพื่อส่งกลับประเทศในอีกไม่กี่วันนี้
แคทเธอรีน แม็คเคนนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมระบุเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ว่า แคนาดาจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเตรียมการ เคลื่อนย้าย ขนส่ง และกำจัดขยะทั้งหมดเอง และกระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน มิ.ย.
เมื่อสัปดาห์ก่อน ฟิลิปปินส์ได้เรียกให้เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำแคนาดากลับประเทศ หลังจากที่แคนาดาไม่ทำตามกำหนดเส้นตายการเก็บกู้ขยะวันที่ 15 พ.ค. เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจเนื่องจากปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนาน
ซัลวาดอร์ พาเนโล โฆษกของดูเตอร์เต ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า “เนื่องจากการกระทำผิดกฎหมายที่ใช้เวลานานเกินจำเป็น ท่านประธานาธิบดีได้ออกคำสั่งให้หน่วยงานเลือกบริษัทขนส่งเอกชนที่เหมาะสม เพื่อขนย้ายขยะทั้งหมดกลับแคนาดา”
“หากแคนาดาไม่นำขยะกลับไป เราจะนำขยะทั้งหมดทิ้งไว้ในน่านน้ำ หรือ ห่างออกมา 12 ไมล์ทะเล (ประมาณ 22 กม.) จากชายฝั่งส่วนไหนก็ตามของแคนาดาเอง”
ทั้งนี้ ดูเตอร์เต มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากวิธีการพูดที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา โดยเดือนก่อนเขาได้ขู่ว่าจะนำขยะทั้งหมดกลับไปยังประเทศต้นทาง หากปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ปัญหาดังกล่าวยังได้รวมไปถึงตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกส่งมายังฟิลิปปินส์ ของบริษัทเอกชนจากแคนาดาและสาขาที่เป็นผู้รับในฟิลิปปินส์ ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า ตู้คอนเทนเนอร์ถูกส่งมายังท่าเรือคอนเทนเนอร์ระหว่างประเทศมะนิลา โดยมีการหลอกลวงและระบุว่าเป็นคอนเทนเนอร์สำหรับพลาสติกที่จะต้องนำไปรีไซเคิล แต่ความจริงคือขยะมูลฝอยจากในครัวเรือนจำนวนหลายตัน
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบคอนเทนเนอร์ที่ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2558 พบว่า ภายในมีขยะมูลฝอยจากในชุมชนมากมาย ทั้งขยะจากในครัวเรือน และขยะจากท้องถนน
ทางรัฐบาลฟิลิปปินส์ระบุว่า คอนเทนเนอร์ขนขยะเหล่านี้ทำให้ท่าเรือหนาแน่นเกินไป และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนโดยบางส่วนยังคงค้างอยู่ในคลังของท่าเรือมะนิลา ในขณะที่บางส่วนถูกกำจัดในพื้นที่ฝังกลบขนาดใหญ่
