มาเลเซียฟ้องยึดทรัพย์นาจิบเพิ่มอีก
รัฐบาลมาเลเซียและตำรวจมีการยื่นฟ้องยึดทรัพย์ 2 คดีกับอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบราซัค กับภรรยา โรสมาร์ มันซอร์ และอีกหลายคนเพื่อยึดทรัพย์มูลค่า 711 ล้านริงกิต ( ราว 5,523 ล้านบาท ) ซึ่งถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินจากกองทุน 1MDB เพื่อนำมาซื้อสินทรัพย์เหล่านี้
สื่อด้านการเงิน The Edge รายงานว่า มีการยื่นฟ้อง 2 คดีกับศาลสูงในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 7 พ.ค. เพื่อขอยึดทรัพย์จำนวนมากซึ่งประกอบด้วยเครื่องประดับ เงินสด กระเป๋าถือ และรถยนต์หรูจากบุคคลเหล่านี้
โดยรายงาน ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าว ระบุว่าการยื่นฟ้องยึดทรัพย์ในคดีนี้ถือเป็นการดำเนินการต่อจากการบุกเข้ายึดทรัพย์จากที่พักอาศัยและสำนักงานในย่านบูกิต บินตัง และสถานที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯนาจิบและภรรยาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อปีที่แล้ว
รายงานระบุว่า การยื่นฟ้องเพื่อยึดทรัพย์คดีแรกของรัฐบาลพุ่งเป้าไปที่การยึดทรัพย์ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งในคลังวัลเลย์ เงินสดในสกุลเงินต่างประเทศต่อื่นๆ กระเป๋าถือ และแว่นตากันแดด รวมมูลค่าทั้งหมด 680 ล้านริงกิต ( 5,283 ล้านบาท)
รายงานยังระบุว่า การยื่นฟ้องคดีที่สองเพื่อยึดทรัพย์เป็นรถยนต์หรู 27 คัน เงินสดพร้อมทั้งเงินสกุลต่างประเทศอื่นๆ บัญชีธนาคาร 29 แห่ง นาฬิกาและกระเป๋ามูลค่ารวม 31 ล้านริงกิต ( 240 ล้านบาท)
รายงานชี้ว่า ฟูเว่ยมิน ผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนพิเศษต่อต้านการฟอกเงินบูกิตอามันยืนยันว่า มีคำให้การที่เป็นลายลักษณ์อักษรในการสนับสนุนการยื่นฟ้องเพื่อยึดทรัพย์ โดยผู้กำกับการฟูเป็นผู้ทำการสอบสวนในคดีนี้
สื่อ The Edge รายงานว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการไต่สวนคดีนี้เมื่อไร
หลังจากแพ้การเลือกตั้งทั่วไปในปีที่แล้วได้ไม่นาน ตำรวจก็บุกเข้าตรวจค้นที่พักและสำนักงานที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯ นาจิบ
ดาตุ๊ก เสรี อมาร์ ซิงห์ อดีตผอ.ฝ่ายสอบสวนอาชญากรรมทางเศรษฐกิจบูติกอามันระบุว่า ประเมินว่ามูลค่าทรัพย์ที่ยึดมาได้ทั้งหมดอยู่ระหว่าง 900 ล้านริงกิต – 1,500 ล้านริงกิต ( 6,930 – 11,550 ล้านบาท ) ถือเป็นมูลค่าการยึดทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย
มีการรายงานว่า ทรัพย์ทั้งหมดที่ยึดมาได้ มีเครื่องประดับมากกว่า 12,000 ชิ้น นาฬิกา 423 เรือน แว่นตากันแดด 234 อัน กระเป๋าถือ 567 ใบ และเงินสดทั้งหมดใน 26 สกุลเงินที่แตกต่างกัน.