บรูไนระงับโทษประหารเกย์
บรูไนจะระงับโทษประหารชีวิตกับผู้ที่ถูกตัดสินว่าผิดในกรณีมีเพศสัมพันธ์แบบชาวเกย์ หลังจากถูกนานาชาติประณามที่บรูไนประกาศนำกฎหมายตามหลักศาสนาอิสลามที่เคร่งครัดมาใช้ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์แห่งบรูไนทรงมีพระราชดำรัสทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ว่า พระองค์จะระงับบทลงโทษเพื่อเป็นการปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติต่อต้านการทรมาน
โดยพระราชดำรัสของพระองค์มีขึ้น เนื่องจากมีกระแสการต่อต้านจากทั่วโลกหลังจากบรูไนประกาศเมื่อเดือนเม.ย.ว่าจะใช้บทลงโทษใหม่ คือโทษประหารชีวิตด้วยการขว้างปาหินสำหรับคดีผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน การคบชู้และข่มขืน
หลังคำประกาศการลงโทษจากบรูไน ทำให้บรรดาคนดังอย่างจอร์จ คลูนีย์และเอลตัน จอห์นร่วมกับกลุ่มสิทธิมนุษยชนพากันรณรงค์คว่ำบาตรไม่เข้าพักในเชนโรงแรมซึ่งเป็นกิจการของพระองค์ ขณะที่ธนาคาร JP Morgan และ Deutsche Bank ชี้แจงกับพนักงานให้หลีกเลี่ยงการใช้บริการโรงแรมที่พระองค์เป็นเจ้าของด้วยเช่นกันจากกฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรงของบรูไน
ตั้งแต่แรก ประเทศบรูไนกล่าวปกป้องกฎหมายใหม่ว่า เป็นการป้องกันมากกว่าการลงโทษ แต่กระแสต่อต้านจากทั่วโลกดูจะบีบให้บรูไนต้องยอมถอยในที่สุด
ในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 4 พ.ค. สุลต่านแห่งบรูไนทรงตรัสว่ามีความเข้าใจผิดไปมากเกี่ยวกับกฎหมายจนอาจก่อให้เกิดความหวาดหวั่น
“ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า เมื่อมีการเคลียร์เรื่องนี้ คุณค่าของกฎหมายนี้จะปรากฎชัด” พระองค์ทรงตรัส
องค์สุลต่านประกาศการระงับโทษประหารชีวิตของกฎหมายใหม่ระยะยาวเป็นเวลานานกว่าสองทศวรรษ เราได้ระงับโทษประหารชีวิตในหลายคดีภายใต้กฎหมายคอมมอนลอว์ นี่เป็นการประยุกตร์ใช้กับคดีภายใต้ประมวลกฎหมายชารีอะห์”
ถึงแม้จะมีการประกาศเรื่องโทษประหารชีวิตเมื่อวันที่ 4 พ.ค. แต่พระองค์ทรงยืนยันว่าจะมีการบังคับใช้บทลงโทษตามกฎหมายใหม่โดยรวม
“ทั้งคอมมอนลอว์และกฎหมายชารีอะห์มีเป้าหมายเพื่อสร้างสันติภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกันในประเทศ และมีความสำคัญในการปกป้องจริยธรรม และความเหมาะสมของประชาชน รวมทั้งการเคารพความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล ”
หนุ่มเกย์คนหนึ่งในบรูไน ซึ่งไม่ประสงค์จะเปิดเผยนามกล่าวว่า ขณะที่คำประกาศขององค์สุลต่านถือเป็น “ข่าวดี” แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับความกลัวชาวรักร่วมเพศอย่างไม่มีเหตุผลและการเลือกปฏิบัติในประเทศบรูไน
“ หากพวกเขาไม่ทำอะไรที่แสดงให้เห็นว่า พวกเขาสนับสนุนชาว LGBT ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ศาสนามีผลกระทบสำคัญที่ทำให้มีการเกลียดชังและกลัวอย่างไร้เหตุผล”.