โจโควี่ปราศรัยครั้งใหญ่
เมื่อวันที่ 13 เม.ย.บรรยากาศการปราศรัยครั้งใหญ่ในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีโจโค วิโดโดแห่งอินโดนีเซีย เหมือนการมาชมคอนเสิร์ตวงร็อกในสนามกีฬาเกโลรา บัง คาร์โน (GBK) ในกรุงจาการ์ตา เนื่องจากประชาชนต่างพากันร้องเพลงร่วมไปกับวงร็อกระดับตำนาน
โดยในงาน ประชาชนมากันอย่างแน่นนัดเต็มความจุของสนามกีฬา ถือเป็นการปิดฉากแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งที่กินเวลานานถึง 7 เดือน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในสัปดาห์หน้า
โดยประธานาธิบดีโจโควี่สวมเสื้อขาวที่เป็นชุดประจำของเขา และได้รับเสียงเชียร์ต้อนรับดังสนั่นจากประชาชนผู้สนับสนุนเมื่อเขาก้าวขี้นเวที เขาโบกมือทักทายผู้คนและเริ่มกล่าวสุนทรพจน์ที่เน้นย้ำว่าหลักการสำคัญของอินโดนีเซียคือ เอกภาพในความหลากหลาย จะต้องได้รับการปกป้อง
“ (อินโดนีเซีย) เป็นประเทศใหญ่มากและเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ ประกอบด้วยประชาชนที่แตกต่างกันทั้งชาติพันธุ์ ศาสนา และภูมิหลังทางวัฒนธรรม การอยู่รวมกันจะทำให้เราปลอดภัยและปกป้องความหลากหลาย” โจโควี่กล่าว
เขาเรียกร้องให้บรรดาผู้สนับสนุนเขาคงความเชื่อมั่น และมองโลกในแง่ดีว่าอินโดนีเซียจะก้าวหน้าต่อไปเพราะเขาสัญญาจะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศหากเขาชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 นี้
จากผลการศึกษาชี้วาอินโดนีเซียจะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกได้ภายในปี 2588 โจโควี่กล่าว ดังนั้น เราจึงต้องก้าวไปข้างหน้าเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายในอนาคต โดยเขาเสริมว่า เขาตั้งเป้าที่จะปรับปรุงพัฒนาเศรษฐกิจภายใน 5 ปีข้างหน้า ถึงแม้จะมีความยากลำบากและความท้าทาย อินโดนีเซียจะรุดหน้าไปในทางที่ถูกต้อง
“ ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้ทันที แม้แต่สวัสดิการ ในประเทศที่ใหญ่แบบอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม หากเราอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง เราต้องมองในแง่ดีว่าอินโดนีเซียจะเคลื่อนไหวไปข้างหน้า”
“ ประเทศของเรา อินโดนีเซีย จะไม่สูญพันธุ์ ! ” ผู้นำอินโดนีเซียประกาศ ถือเป็นการโต้กลับโดยตรงกับคู่แข่งคือปราโบโว ซูเบียนโต ซึ่งเคยระบุก่อนหน้านี้ว่าประเทศจะสูญพันธุ์ หากเขาแพ้การเลือกตั้ง
โจโควี่กล่าวขอบคุณพรรคการเมืองทุกพรรคและหัวหน้าพรรคทุกคนที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนในการเลือกตั้ง รวมทั้งจิตอาสาและผู้มีส่วนร่วมทุกคน
โดยเขายังได้เชิญรองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลา ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มผู้บริหารระดับสูงสำหรับทีมทำงานของโจโควี่ขึ้นมาบนเวทีและกล่าวขอบคุณการสนับสนุนของเขาในช่วงระยะเวลา 4.5 ปีของการทำงานของรัฐบาล
“ ในนามของความรัก ผมอยากจะขอจับมือและกอดพวกคุณทุกคนไว้ในอ้อมกอดเดียว ให้เราเป็นอินโดนีเซียที่เป็นหนึ่งเดียวกัน” โจโควี่กล่าว.