เศรษฐกิจเมียนมาอาจหดตัวจากจีน
การส่งออกไปจีนของกลุ่มประเทศ CLMV เริ่มหดตัวลงในช่วงปลายปี 61 “ทั้งลาวและเมียนมาพึ่งพาดีมานด์จากจีนอย่างหนัก และไม่ได้เตรียมตัวรับมือหากสงครามการค้าสหรัฐฯ- จีนยืดเยื้อ หรือเศรษฐกิจจีนชะลอตัวอย่างรุนแรง” กลุ่ม Maybank Kim Eng ระบุในเอกสารถึงลูกค้าเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเมียนมาคิดเป็น 25% ของอัตราการเติบโตต่อปีของเมียนมาในช่วง 5 ปีล่าสุด อ้างอิงจากข้อมูลของ Maybank Kim Eng
ขณะที่การส่งออกของเมียนมาไปจีนคิดเป็น 22% ของ GDP เมียนมา เมื่อเทียบกับ 46% ในลาว โดย 35% ของมูลค่าการส่งออกโดยรวมของเมียนมาที่มุ่งตรงไปที่จีน อาจได้รับผลกระทบด้านลบจากดีมานด์ของจีนที่ชะลอตัวลง
โดยการค้าชายแดนระหว่างจีนกับเมียนมาลดลงถึง 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเวลาระหว่าง 1 ต.ค.61 – 29 มี.ค.62 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์
ในช่วงระยะเวลา 5 เดือน การค้าชายแดนมืองมูเซอยู่ที่ 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีก่อน เป็นผลมาจากดีมานด์ที่ลดลง และการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นจากจีน
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศของเมียนมาชะลอตัวลง และการส่งออกสิ่งทอและเสื้อผ้าไปอียูกำลังมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
“ กัมพูชาและเมียนมามีความเสี่ยง เนื่องจากพึ่งพาจีนมากในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้า ซึ่งบูมมากในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา โดยได้อานิสงส์จากค่าแรงถูก และความได้เปรียบในการเข้าถึงตลาดสหรัฐฯและอียู ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ GSP” รายงานระบุ
อียูกำลังดำเนินการถอนสิทธิการค้าพิเศษ GSP เพื่อเป็นการลงโทษเมียนมาจากเหตุการณ์ความรุนแรงในรัฐยะไข่ โดยตลาดอียูคิดเป็น 15% ของการส่งออกจากเมียนมา และ 1 ใน 4 คือสิ่งทอและเสื้อผ้า จากรายงานของ Maybank Kim Eng ที่อ้างอิงจากข้อมูลของ IMF และ CEIC Holdings
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมหนึ่งที่ยังเติบโตคือการท่องเที่ยว “การท่องเที่ยวเกิดใหม่ได้อย่างแข็งแกร่งในกลุ่มประเทศ CLMV” Maybank Kim Eng ระบุในรายงาน
จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมียนมาขยายตัวขึ้น 12% ในช่วง 5 ปีล่าสุด และรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็น 3.1% ของ GDP เมียนมาในปี 60 โดยจำนวนนักท่องเที่ยว 3.4 ล้านคนของเมียนมาในปี 60 เป็นนักเดินทางจากจีนกว่า 17% มากกว่านักท่องเที่ยวฝรั่งเศสซึ่งตามมาเป็นอันดับ 2 เกือบสองเท่า
เมียนมาและจีนกำลังมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกันและกัน โดยรายงานชี้ว่าคาสิโน ซึ่งได้รับความนิยมในบรรดาชาวจีนจะมีการดำเนินการสร้างอย่างถูกกฎหมายในเมียนมา เมื่อกฎหมายการพนันปี 61 มีผลบังคับใช้ จะสามารถสร้างคาสิโนในโรงแรมที่ย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ เป็นการเปิดโอกาสกว้างให้กับนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศและธุรกิจอื่น อย่างไรก็ตาม มีเพียงชาวต่างชาติเท่านั้นที่จะเข้าคาสิโนได้
ในสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางเมียนมาอนุมัติโครงการนักบิน 3 เดือนเพื่อทดสอบการจ่ายเงินดิจิทัลโดยใช้แอปพลิเคชั่น WeChat ใน 14 ร้านที่สนามบินมัณฑะเลย์ และร้านเฉพาะในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งมีจำนวนประชากรชาวจีนอยู่มาก.