“มหาเธร์”ชี้ต้องรีบทำงาน เพราะเวลาเหลือน้อย
นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดแห่งมาเลเซียระบุว่า เขาต้องรีบทำงานให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วเพราะเขามีเวลาเหลืออีกไม่มากที่จะมีชีวิตอยู่
“ผมโชคดี ที่ผมอายุยืน ที่จริงแล้ว ผมไม่ควรต้องมาดูแลสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายกฯคนก่อนหน้าผม แต่ผมโชคดีในแง่ที่ว่า ผมไม่เพียงเป็นคนแก่อายุมาก แต่ผมยังคงทำงานได้”
“แต่ผมตระหนักว่า ผมแก่มากแล้ว และเร็วๆนี้ผมคงอ่อนแรงลงและผมก็จะตาย ดังนั้น ผมจึงต้องรีบ คนอื่นดูจะทำอะไรแบบสบาย ๆ แต่ผมต้องรีบทำ เพราะผมทราบดีว่า ผมไม่มีเวลาเหลือมากนักที่จะทำสิ่งต่างๆ ที่ผมรู้สึกว่าจำเป็นต้องทำในประเทศนี้” ผู้นำมาเลเซียกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Focus Malaysia นิตยสารธุรกิจ ซึ่งทางสื่อ The Star นำมารายงานเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายกฯมหาเธร์ ในวัย 93 ปี ยังระบุว่า เขาจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดตราบเท่าที่เขายังเป็นนายกฯอยู่ “ มีคนบอกผมว่า ผมเป็นทางเลือกสำหรับตำแหน่งนายกฯ จากแนวร่วมพรรคฝ่ายค้าน แต่พวกเขาไม่ได้เจาะจงเรื่องเวลา”
“ พวกเขาบอกว่า ผมเป็นเหมือนนายกฯรักษาการ และจะมีคนมารับช่วงต่อ ผมเดาว่าอาจนานถึงการเลือกตั้งสมัยหน้า” นายกฯมหาเธร์ระบุ
เขาเอ่ยถึงข้อตกลงในบรรดาพรรคพันธมิตรของ Pakatan Harapan (PH) ที่ยกให้เขาบริหารประเทศประมาณ 2 ปี ก่อนส่งต่อตำแหน่งนายกฯให้กับส.ส.อันวาร์ อิบราฮิม
ในการให้สัมภาษณ์ นายกฯมหาเธร์ปฏิเสธว่าเขามีแผนจะปรับคณะรัฐมนตรี แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่ต้องทำงานร่วมกับรัฐมนตรีที่ขาดประสบการณ์
เขาระบุว่า เขาต้องทำงานต่อไปร่วมกับรัฐมนตรีที่เขาเลือกมา และบางคนแสดงให้เขาเห็นถึงศักยภาพที่มี “ เรามีคนที่ขาดประสบการณ์ในรัฐบาลตอนนี้ ผมคิดว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์ ก็จะได้มีประสบการณ์จากปัญหาที่เจอ”
“ หากปรับเปลี่ยนตอนนี้ ก็คงไม่ช่วย ผมต้องพยายาม และทำงานร่วมกับพวกเขา เพื่อให้พวกเขาได้มีประสบการณ์ และเชื่อผมเถอะ หลายคนทำงานได้ดีเลย” เขากล่าว
เขายอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแนวคิดของพรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งชนะเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว แย่งอำนาจในการปกครองประเทศมาได้จากพรรคที่เป็นรัฐบาลมายาวนานอย่างพรรค Barisan Nasional (BN)
“ ตอนนี้พวกเขาพบว่าถูกวิจารณ์หนัก และพวกเขาต้องยอมรับ” นายกฯมหาเธร์กล่าว รัฐบาลของพรรค PH ที่มีอายุการทำงานนาน 10 เดือนจนถึงตอนนี้ ถูกประชาชนวิจารณ์ว่า ทำงานช้าไม่สามารถทำในสิ่งที่สัญญาไว้ก่อนเลือกตั้งได้ และรัฐมนตรีหลายคนอ่อนประสบการณ์
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลนี้ก็ทำตามที่เคยสัญญาไว้ได้บ้างแล้ว เช่น ยกเลิกภาษี GST , ประกาศสงครามปราบคอร์รัปชั่นกับเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ , แต่งตั้งผู้ที่ไม่ใช่นักการเมืองและไม่ได้ถูกกฎหมายห้ามให้ขึ้นเป็นประธานกกต. และดำเนินคดีกับอดีตนายกฯนาจิบ ราซัคและพวกในข้อหาคอร์รัปชั่นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (1MDB).
