ดูเตอร์เตขอสิงคโปร์ช่วยวิกฤตน้ำประปา
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์หันไปหาสิงคโปร์เพื่อขอความช่วยเหลือในการแก้วิกฤตขาดแคลนน้ำในกรุงมะนิลา
“ เราจำเป็นต้องขอคำแนะนำจากสิงคโปร์ และผมแน่ใจว่าคำแนะนำจะช่วยเราแก้ไขปัญหาได้โดยเฉพาะเรื่องน้ำ” ประธานาธิบดีดูเตอร์เตกล่าวกับนายเจอราร์ด โฮ เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 19 มี.ค.
โดยดูเตอร์เตมีความสนใจเป็นพิเศษในประสบการณ์การแยกเกลือจากน้ำทะเลของสิงคโปร์
“ผมทราบว่าอิสราเอลและสิงคโปร์มีเครื่องมือในการดำเนินการ (แยกเกลือออกจากน้ำ) ที่ดีที่สุด”เขากล่าวกับท่านทูตโฮ
สิงคโปร์มีโรงงานแยกเกลือออกจากน้ำทะเล ซึ่งทำให้สามารถผลิตน้ำประปาได้ถึง 490 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการในการใช้งานน้ำประปาประมาณ 30%
อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้ถือว่ามีราคาแพงสำหรับฟิลิปปินส์ โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร
ขณะนี้ พื้นที่บริเวณกว้างในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์กำลังเกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง
โดยปัจจุบัน มีมากกว่า 13 ล้านคนที่อาศัยในมหานครมะนิลา ซึ่งมี 16 เขตและหนึ่งเมือง
ท่อประปาแห้งมานานกว่า 2 สัปดาห์สำหรับผู้บริโภค 6 ล้านคนจากการดำเนินการของบริษัทเอกชนที่ได้รับสัมปทานคือ Manila Water ประชาชนต้องต่อคิวเข้าแถวยาวนานหลายชั่วโมงหน้ารถบรรทุกน้ำ บ่อน้ำ และห้างที่ขายน้ำบรรจุขวดทั่วกรุงมะนิลา
โรงพยาบาลต้องลดการใช้น้ำในห้องพักคนไข้และลดจำนวนการผ่าตัด ห้างสรรพสินค้าปิดห้องน้ำ สถานีตำรวจและเรือนจำต้องซื้อถังน้ำเพิ่มสำหรับผู้ต้องขังในคุก
ในการไต่สวนของสภาเมื่อวันที่ 18 – 19 มี.ค.ผู้บริหารของ Manila Water ระบุว่าอยู่ในสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ
ท่อน้ำแห้งเพราะ Manila Water ซึ่งเป็นผู้จ่ายน้ำให้ครึ่งหนึ่งของมหานครมะนิลา ไม่มีแหล่งน้ำเพียงพอในการผลิตน้ำที่จะครอบคลุมการใช้งานน้ำที่เพิ่มขึ้น
หน่วยงานที่กำกับดูแลของรัฐบาลตำหนิ Manila Water ที่ไม่สามารถเพิ่มศักยภาพการผลิตและหาแหล่งน้ำใหม่ โดยพึ่งพาแต่น้ำจากเขื่อน La Mesa และการปันส่วนน้ำ
อย่างไรก็ตาม บริษัทโต้แย้งว่า รัฐบาลไม่อนุมัติตามคำขอของบริษัทในการสร้างอ่างเก็บน้ำและโรงบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการสร้างเขื่อนใหม่
โดยเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ดูเตอร์เตได้เรียกเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลเรื่องน้ำประปาเข้าไปตำหนิด้วย.