ฮานอยรถติดหนักช่วงประชุมทรัมป์-คิม
การจราจรในกรุงฮานอยที่เวียดนามติดขัดอยู่แล้วในวันปกติ ยิ่งแย่กว่าเดิมอีกในสัปดาห์นี้เพราะมีการจัดการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯและประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือ
โดยการจราจรในเขตตัวเมืองยิ่งหนักหนาสาหัสในวันที่ 26 ก.พ. เนื่องจากมีการปิดกั้นถนนเพื่อเปิดทางให้กับขบวนรถของผู้นำทั้งสอง ส่งผลให้รถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นยานพาหนะยอดนิยมของพลเมืองในกรุงฮานอยทั้งหมดประมาณ 7.5 ล้านคน ต้องหนีขึ้นไปวิ่งบนทางเท้าเพื่อหลบหลีกจากสภาพรถติดหนัก
เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ที่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามจะแตกต่างไปจากเดิมมาก ร้านกาแฟหลายร้านถูกสั่งให้เคลียร์โต๊ะเก้าอี้ออกจากทางเท้าทั้งหมด และบางร้านถูกสั่งปิด
Tam Mai วัย 30 ปี พนักงานต้อนรับในโรงแรมอึกอักที่จะตอบเมื่อถูกถามว่าการประชุมครั้งนี้ขัดขวางชีวิตประจำวันของเธอหรือไม่ “ ฉันขี่รถสกู๊ตเตอร์ไปทำงาน และการจราจรติดขัดหนักมาก ฉันต้องออกเดินทางไปทำงานให้เร็วขึ้น”
กรุงฮานอยมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา “ ถนนหลายสายสะอาดขึ้น มีการปลูกดอกไม้มากขึ้น และห้ามไม่ให้รถบรรทุกคันใหญ่วิ่งเข้ามาในเมือง มีการเตรียมงานที่ดีสำหรับการประชุม” เธอให้ความเห็น
ห้องพักโรงแรมในเมืองเต็มหมด และรถแท็กซี่ดำเนินธุรกิจได้อย่างคึกคักเนื่องจากมีนักข่าวและนักการทูตจำนวนมากจากทั่วโลกมารวมตัวกันอยู่ในเมืองนี้
Din Xuan Cuong วัย 50 ปี และเพื่อนนักธุรกิจของเขา Hoang Xuan Thuy วัย 53 ปี ขับรถกว่า 100 ก.ม.จากบ้านเกิดเมืองไฮฟองมากรุงฮานอย พวกเขาหวังว่าจะได้เห็นผู้นำทั้งสอง
Hoang สวมเสื้อยืดที่ระลึกเป็นรูปทรัมป์ – คิม และถือธงชาติสหรัฐฯ อยู่ในกลุ่มคนจำนวนมหา
ศาลใกล้กับโรงแรมเมเลีย ฮานอย โดยเขาระบุว่าเขาไม่ได้ชื่นชอบทรัมป์เป็นพิเศษ แต่ร้านที่เขาซื้อไม่มีธงของเกาหลีเหนือ
“ ผมหวังว่าประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีคิมจะพูดคุยกันอย่างสันติ และลดโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และรักษาสันติภาพในเกาหลีเหนือและใต้ ประชาชนมีชีวิตอย่างสงบสุข” Dinh พยายามตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษอย่างไม่คล่องแคล่วนัก
ตำรวจพร้อมอาวุธประจำการอยู่หน้าโรงแรมเมเลีย ฮานอยตั้งแต่บ่ายวันที่ 25 ก.พ.เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ผู้นำเกาหลีเหนือ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกทีมหนึ่งไปประจำการที่โรงแรม J.W.Marriott ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 ก.ม. โดยโรงแรมนี้จะเป็นที่พักของทรัมป์
บนถนนห่างออกมาจากโรงแรม มีป้ายแบนเนอร์รูปทรัมป์และคิมยิ้มแย้มและจับมือกันหน้าร้านหม้อไฟ Dewo โดยผู้จัดการร้านคือ Nguyen Van Quang วัย 29 ปี ระบุว่า “นี่เป็นการส่งข้อความแห่งสันติภาพ”
ป้ายนี้พนักงานร่วมกันวาดหนึ่งวันหลังจากได้รับแจ้งว่าโรงแรมจะมีส่วนในการประชุม ร้านอาหารแห่งนี้ถูกทางการแจ้งให้ปิดตั้งแต่วันที่ 23 – 28 ก.พ. เนื่องจากมี “ ความกังวลด้านความปลอดภัย ” ซึ่งทางร้านไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะก็เคยถูกสั่งให้ปิดมาแล้วในช่วงที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้เมื่อปี 2559
Tian Xuan ไกด์นำเที่ยว วัย 44 ปี ระบุว่าชาวเวียดนามภูมิใจที่ประเทศได้จัดการประชุมครั้งนี้
“ นี่แสดงให้เห็นว่า เราเป็นประเทศที่อบอุ่นและมีความสะดวกสบาย มีความปลอดภัย และเชื่อถือได้ในการจัดการประชุม”
“เราหวังว่า การประชุมครั้งนี้จะช่วยยกระดับสถานะของเวียดนามในสายตาชาวโลก หนุนเศรษฐกิจของเรา และส่งเสริมการท่องเที่ยว” เขากล่าว.