มหาเธร์ชี้รถไฟ ECRL ราคาเหมาะสมก็เดินหน้าได้
ราคาในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสาย East Coast Rail Link (ECRL) นั้นสูงเกินไปในสถานการณ์ปัจจุบันของมาเลเซีย
โดยนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดแห่งมาเลเซียระบุว่า มีสองทางเลือกสำหรับมาเลเซีย คือลดราคาค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างลงมาและเดินหน้าโครงการต่อไปเมื่อราคาเหมาะสมแล้ว หรือเลื่อนโครงการออกไป
“ หากราคาถูกต้องเหมาะสม เราก็จะเดินหน้าต่อไป แต่ในช่วงเวลานี้ เรายังไม่ตกลงเรื่องราคา” นายกฯมหาเธร์ระบุ
โดยเขากล่าวว่า มาเลเซียหวังที่ะจะใช้เงินงบประมาณให้น้อยลงสำหรับโครงการนี้ เนื่องจากราคาเดิมสูงเกินไปสำหรับสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน
ดร.มหาเธร์อธิบายว่า เงินจำนวน 55,000 ล้านริงกิต จะทำให้มาเลเซียต้องใช้เวลานานถึง 30 ปีในการจ่ายเงินกู้คืนหมด
“ และเราจะแบกภาระดอกเบี้ยสูงมาก ซึ่งที่สุดแล้วจะเป็นจำนวนมากถึง 140,000 ล้านริงกิต”
“ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากสร้าง แต่มันยังเร็วเกินไปสำหรับเรา เพราะเราไม่มีเงิน”
นายกฯมหาเธร์เสริมว่า มาเลเซียต้องระมัดระวังในการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะประเทศกำลังมีหนี้จำนวนมาก “นอกจาก ECRL แล้ว เรายังมีหนี้จากกองทุน 1MDB และอื่นๆอีก”
“ นี่เกิดจากรัฐบาลที่แล้ว และตอนนี้พวกเขากลับมาบอกเราว่าจะบริหารประเทศอย่างไร แต่ตอนที่พวกเขาอยู่ ทำไมไม่ทำหน้าที่ให้ดี”
“พวกเขาก่อหนี้ไว้สูงมาก และประเทศต้องเอารายได้มาชดใช้หนี้ให้ ถ้าไม่เช่นนั้น เราอาจถูกฟ้องล้มละลายได้” นายกฯมหาเธร์กล่าว
สัปดาห์ที่แล้ว ลิมกวนเอ็ง รมว.กระทรวงการลังแห่งมาเลเซียระบุว่า เขาเชื่อว่ามาเลเซียและจีนจะบรรลุข้อตกลงในการฟื้นฟูโครงการรถไฟ ECRL ขึ้นมาใหม่ได้ภายในเดือนเม.ย.ปีนี้
โดยเขายังกล่าวว่า การเจรจากับจีนยังดำเนินต่อไปเพื่อลดราคาโครงการลง และจะมีการตัดสินใจในช่วงเวลาที่นายกฯมหาเธร์ไปเยือนจีนในเดือนเม.ย.
ในอีกประเด็น นายกฯ มหาเธร์อยากให้ประชาชนเข้าใจถึงความท้าทาย และงบประมาณในการเทคโอเวอร์ทางหลวงต่อจากผู้รับสัมปทาน
“รัฐบาลต้องซื้อทางหลวงด้วยเงินภาษีจากการเก็บภาษีประชาชน ต้องมีการคงถนนไว้ และมีการดำเนินการต่อโดยรัฐบาล” เขากล่าว
เขาเสริมว่า นี่ยังหมายความว่า รัฐบาลจะไม่มีเงินสำหรับโครงการอื่น ซึ่งมีความสำคัญเหมือนกัน เพราะภาษีที่เก็บได้ต้องใช้เพื่อซ่อมบำรุงถนน.