จีนเป็นคู่ค้าที่มีค่าของมาเลเซีย

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดแห่งมาเลเซียระบุว่า จีนเป็นประเทศคู่ค้าที่มีคุณค่าของมาเลเซีย
โดยนายกฯ มหาเธร์ชี้แจงว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับมาเลเซียจะยังคงเดิม เหมือนในสมัยอดีตนายกฯนาจิบ ราซัค ที่จีนเป็นประเทศคู่ค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และชี้ว่ามาเลเซียดึงดูดเงินลงทุนจำนวนมากจากจีน
“ เรามีความสัมพันธ์กับจีนครั้งแรก ตั้งแต่ยังเป็นประเทศโลกที่ 3 แต่ตอนนี้จีนก้าวหน้าไปอย่างมาก และนี่มีอิทธิพลกับความสัมพันธ์ของเรา” เขากล่าว
นายกฯมหาเธร์ระบุว่า เขามีแผนจะไปเยือนจีนเกี่ยวกับเรื่องงานในเดือนเม.ย. และหนึ่งในสิ่งที่เขามุ่งเน้นคือการพิจารณาหลายโครงการ Belt and Road ของจีน
“ เราจะยืนยันจุดยืน และแสดงถึงการสนับสนุนของเรา แม้ว่าจีนจะอยู่ในระดับที่แตกต่างไปจากเดิมมาก”
ขณะอยู่ในปักกิ่ง นายกฯมหาเธร์จะเข้าร่วมประชุมโครงการ Belt and Road ของจีน Anthony Loke รมว.กระทรวงคมนาคมระบุ
“ ในช่วง 2 -3 เดือนที่ผ่านมา หลายคนแสดงความกังวลเรื่องความสัมพันธ์ของมาเลเซียกับจีน”
สื่อ The Malaysian Insight ยกคำพูดของเขามารายงาน
“ ผมพูดได้เลยว่า แม้มาเลเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล แต่นโยบายต่างประเทศที่เกี่ยวกับจีนยังคงเดิม”
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับมาเลเซียถูกจับตามองหลังจากดร.มหาเธร์จากพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งในปีที่แล้ว
หลังจากขึ้นสู่อำนาจในเดือนพ.ค.2561 ดร.มหาเธร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้วิจารณ์การลงทุนของจีนในมาเลเซียมาตลอด ให้คำมั่นที่จะมีการเจรจาใหม่ หรือยกเลิกโครงการจีนที่ได้รับการอนุมัติจากอดีตนายกฯ นาจิบ ราซัค ซึ่งเขามองว่ามีเงื่อนไขที่ “ไม่ยุติธรรม”
รัฐบาลของนายกฯ มหาเธร์ยกเลิกโครงการท่อก๊าซที่มีมูลค่าสูงถึง 9,400 ล้านริงกิต หลังจากพบว่า มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในการก่อสร้างโครงการไปเกือบ 90% แล้ว แต่งานแล้วเสร็จเพียง 13% เท่านั้น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังสั่งระงับและพิจารณาเพื่อยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูง ECRL ที่เชื่อมฝั่งตะวันออกกับตะวันตกของคาบสมุทรมาเลเซีย แต่ปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เขาระบุว่ารัฐบาลยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการ ECRL
“ ในเวลานี้ ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย มีการตัดสินใจไปบ้างแต่เราต้องหาทางแก้ไขที่ดีกว่าเดิม เรายังคมีการเจรจาอยู่” เขากล่าว.