สิงคโปร์พร้อมรับมือเศรษฐกิจขาลง

สิงคโปร์ ที่มีประชากรเพียงประมาณ 5.6 ล้านคน เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงินชั้นนำและฮับการค้าของเอเชียและของโลก
นานหลายทศวรรษแล้วที่สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตอย่างน่าประทับใจที่สุด เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกในโลกที่มี GDP สูงสุดต่อหัวประชากร อ้างอิงจากสถิติของธนาคารโลก
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางของสิงคโปร์เตือนเมื่อปลายปีที่แล้วว่า การส่งออกซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอาจได้รับผลกระทบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจากสงครามภาษีของสหรัฐฯ กับจีนที่ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน สิงคโปร์เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในจีน ขณะที่จีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชีย ก็เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์เช่นกัน แต่เนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 28 ปี ทำให้สิงคโปร์ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายมากขึ้น
ในเดือน ม.ค.นี้ สิงคโปร์รายงานว่าเศรษฐกิจมีการเติบโต 3.3% ในปี 2561 ชะลอตัวลงจากปี 2560 ที่มีการเติบโต 3.6% และในสัปดาห์ก่อน ยังมีการเปิดเผยว่า ยอดส่งออกร่วงลงถึง 8.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้เป็นตัวเลขส่งออกที่ซบเซาที่สุดในรอบกว่า 2 ปี นับเป็นยอดส่งออกร่วงต่ำเกินคาดการณ์ และพลาดเป้าจากโพลนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์ที่ทำนายว่าจะมีการเติบโต 1.5%
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าสิงคโปร์มีแนวโน้มจะรับมือกับพายุการค้าที่กำลังจะเกิดได้ดีเพราะมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่มั่นคง
Taimur Baig หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคาร DBS เน้นว่าความแข็งแกร่งของสิงคโปร์คือตัวเลข GDP ที่แท้จริงต่อหัวประชากร ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สิงคโปร์สามารถเอาชนะประเทศพัฒนาแล้วอย่างเยอรมนีและสวีเดนได้
เขาอธิบายว่า สถานะทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสิงคโปร์ “ เป็นผลมาจากการทำมาตลอดนานห้าทศวรรษ” โดยเน้นถึงหลายนโยบาย ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งโครงการการเคหะ
ขณะเดียวกัน Steve Cochrane หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำเอเชียแปซิฟิกที่สถาบันมูดีส์ ระบุว่า สิงคโปร์มีความสุขกับ “ความมั่งคั่ง” ได้เพราะสามารถส่งเสริมทั้งแรงงานและการผลิต
สิงคโปร์ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นเหมือนเกราะป้องกันแรงกระแทกจากเศรษฐกิจที่ผันผวนทั่วโลก จากความเห็นของ Baig โดยปัจจัยเหล่านั้นคือ การเป็นแหล่งเงินออมขนาดใหญ่ และอำนาจของรัฐบาลในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้สิงคโปร์พร้อมรับกับความผันผวนของวงรอบเศรษฐกิจทั่วโลก และยังคงความมั่งคั่งไว้ได้ เขาเสริม
Song Seng Wun นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร CIMB ยังชี้ให้เห็นว่า สิงคโปร์เป็นตลาดเทคโนโลยีขนาดใหญ่ มีการผลักดันให้มีการพัฒนาระบบไฮเทคและการผลิต ทำให้ล่าสุดยังสามารถดึงดูดใจนักลงทุนอย่าง Dyson บริษัทสัญชาติอังกฤษให้ตัดสินใจผลิตรถไฟฟ้าในสิงคโปร์
Cochrane ระบุว่า ที่สำคัญที่สุดคือ สิงคโปร์ยังคงมีความเป็นหนึ่งเดียวกับอาเซียน สิงคโปร์จะได้ประโยชน์หากเพื่อนบ้านในอาเซียนประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ
“ สิงคโปร์อยากให้มันเกิดขึ้น ยิ่งภูมิภาคอาเซียนเติบโตมากเท่าไร ยิ่งมีโอกาสที่ดีมากขึ้นเท่านั้น ทั้งในแง่การเดินทางท่องเที่ยว การลงทุน และการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วภูมิภาค”.