พายุฟิลิปปินส์ล่าสุดผู้เสียชีวิตแตะ 126
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้เสียชีวิตจากพายุที่เข้าซัดฟิลิปปินส์หลังวันคริสต์มาสไม่นาน เพิ่มขึ้นเป็น 126 ราย โดยสาเหตุหลักคือดินถล่มซึ่งเกิดจากฝนที่ตกหนักเป็นเวลานาน
เจ้าหน้าที่ภัยพิบัติระดับภูมิภาคระบุว่า พายุดังกล่าวเข้าโจมตีทั้งส่วนกลางและตะวันออกของเกาะฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ทำให้เกิดอุทกภัยรุนแรง และดินถล่มตามมา โดยผู้คนมากกว่า 100 ราย เสียชีวิตในเขตบีโคล ที่มีภูเขามากมายทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมะนิลา
อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือน ในขณะที่เขตบีโคลมักถูกพายุไต้ฝุ่นรุนแรงโจมตีอยู่บ่อยครั้ง แต่ผู้คนจำนวนมากก็ยังคงไม่สามารถเตรียมตัวป้องกันที่จำเป็นได้ เพราะพายุลูกนี้ไม่ได้มีกำลังที่แข็งแรงมากพอจะจัดอันดับให้เป็นไต้ฝุ่น ตามระบบเตือนภัยพายุของทางรัฐบาล
เจ้าหน้าที่ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ต่างรู้สึกไม่เต็มใจที่จะต้องทิ้งบ้านไว้ในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส
เอ็ดการ์ โพซาดัส โฆษกของหน่วยงานภัยพิบัติแห่งชาติให้สัมภาษณ์กับทาง AFP ว่า “ภายในระยะเวลาเพียง 2 วัน พายุอุสมันทำให้ฝนตกมากกว่าปริมาณฝนทั้งเดือนของทั้งเขตบีโคลแล้ว” ชื่อพายุอุสมันเป็นชื่อท้องถิ่น โดยตอนนี้ได้ลดกำลังลงไปยังพื้นที่บริเวณความอากาศต่ำ
“สำหรับการดำเนินการค้นหาและแก้ไขปัญหายังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่เพราะโคลนที่ค่อนข้างติดแน่น และดินที่ไม่มั่นคงทำให้การดำเนินการกลายเป็นเรื่องท้าทาย”
นายโพซาดัสระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีผู้คนสูญหายหลังเหตุภัยพิบัติอีก 26 ราย และปัจจุบันยังไม่พบตัว
ตามรายงานของทางสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติ เนื่องจากพายุดังกล่าว ทำให้ผู้คนมากกว่า 152,000 ราย ต้องอพยพและย้ายหนีจากที่อยู่อาศัยเดิม และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 75 ราย
ด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ได้ลงพื้นที่ที่ถูกพายุเข้าโจมตีเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้เร่งให้เจ้าหน้าที่สร้างศูนย์อพยพแทนที่จะใช้โรงเรียนเป็นที่หลบภัยสำหรับผู้ที่ต้องพลัดถิ่น
ในแต่ละปี ประเทศฟิลิปปินส์มีพายุและไต้ฝุ่นเข้าโจมตีกว่า 20 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย
สำหรับไต้ฝุ่นที่รุนแรงมากที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมาคือพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือหายสาบสูญมากกว่า 7,360 ราย ทั่วทั้งฟิลิปปินส์ เมื่อปี 56