ดูเตอร์เตฉาว เผยเคยแตะต้องสาวใช้
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์ก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจอย่างรุนแรง หลังจากกล่าวว่า เขาเคยแตะต้องสาวใช้ของเขาเมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ทำให้กลุ่มสิทธิสตรีกล่าวหาว่าเขาพยายามข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศ
ที่ผ่านมา บ่อยครั้งที่ประธานาธิบดีดูเตอร์เตมักแสดงความเห็นที่ดูถูกเพศหญิง ทั้งมุกตลกเกี่ยวกับการข่มขืน และเรื่องลามกอนาจาร
ในการเปิดเผยครั้งล่าสุด ดูเตอร์เตเล่าให้ฟังว่า เขาเคยไปสารภาพบาปกับบาทหลวงในโรงเรียนมัธยมปลาย โดยให้รายละเอียดว่า เขาแอบเข้าไปในห้องของสาวใช้ตอนที่เธอหลับอยู่
“ ผมเลิกผ้าห่มขึ้น พยายามจะสัมผัสสิ่งที่อยู่ในกางเกง” เขาเล่าให้ฟังในสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. “ พอผมแตะต้องเธอ เธอก็ตื่น ผมเลยรีบออกจากห้อง ”
ดูเตอร์เตเล่าว่า เขาสารภาพกับบาทหลวงว่า เขาหวนกลับไปที่ห้องของสาวใช้อีกครั้ง และพยายามจะข่มขืนเธอ
พรรคการเมืองเพื่อสิทธิสตรี Gabriela ออกโรงประณามเรื่องที่ดูเตอร์เตสารภาพบาปว่าเขาพยายามจะข่มขืนสาวใช้ และเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ
โฆษกของดูเตอร์เตแก้ต่างให้เขาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วว่า เขา “แต่งเรื่อง” นี้ขึ้นมา และ “ใส่สีตีไข่” เรื่องราวทั้งหมด
“ ท่านเล่าเรื่องนี้ก็แค่ล้อเล่นขำๆ เพื่อเน้นให้เห็นถึงความจริงเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ ที่มักเป็นข่าวลือเกี่ยวกับท่านและเพื่อนนักเรียนสมัยมัธยมปลาย” Salvador Panelo
ดูเตอร์เต ในวัย 73 ปี เคยวิพากษ์วิจารณ์ศาสนาคริสต์ โดยกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ที่ผ่านมา เขาเย้ยหยันว่าศาสนาคริสต์เป็น “ สถาบันหน้าไหว้หลังหลอก” เขาระบุเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ว่า เขาและเพื่อนนักเรียนเคยถูกลวนลามทางเพศในระหว่างการสารภาพบาป
เป็นการพูดถึงบาทหลวงอีกครั้งของเขา หลังจากบรรดาบิชอปและบาทหลวงกล่าววิจารณ์สงครามปราบยาเสพติดที่รุนแรงของเขา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,000 ราย อ้างอิงจากตัวเลขทางการ
ทั้งนี้ ดูเตอร์เตและผู้ช่วยของเขามักมีเรื่องตลกล้อเลียนเกี่ยวกับผู้หญิงอยู่เสมอ เขาเคยก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจอย่างรุนแรงในปี 2559
ซึ่งเขาอยู่ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง โดยเขาระบุว่า เขาอยากข่มขืนมิชชันนารีคนสวยจากออสเตรเลียเช่นกัน เธอเป็นเหยื่อที่ถูกฆาตกรรมจากเหตุจลาจลในเรือนจำฟิลิปปินส์
นักเคลื่อนไหวเพื่อผู้หญิงระบุว่า ความเห็นล่าสุดของดูเตอร์เตทำให้หญิงที่ทำงานเป็นแม่บ้านตกอยู่ในอันตราย โดยแรงงานหญิงชาวฟิลิปปินส์ที่ไปทำงานต่างประเทศกว่าล้านคน มักทำงานเป็นแม่บ้าน อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงแรงงาน
“ การดูหมิ่นเหยียดหยามทำให้เกิดวัฒนธรรมข่มขืน และในกรณีนี้ ทำให้ผู้ที่ทำงานแม่บ้านมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะถูกล่วงละเมิดทางเพศ” Jean Enriquez ผู้อำนวยการบริหารของ Coalition Against Trafficking in Women – Asia Pacific.
