ควบคุมเหตุรุนแรงใกล้วัดฮินดูในมาเลย์ได้
เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ตำรวจมาเลเซียเตือนว่า จะมีบทลงโทษอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ลงมือก่อเหตุร้าย หรือยั่วยุ หลังจากเกิดเหตุความรุนแรงใกล้กับวัดศรีมหาอุมาเทวีในสุบังจายา
มีรายงานว่ามีกลุ่มคนมาชุมนุมกันในเวลา 01.00 น.ใกล้กับวัด ซึ่งมีรถยนต์ถูกเผาทำลายในเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 26 พ.ย. มีการจุดไฟเผาซากรถยนต์ที่ถูกเผา 2 คัน และต่อมาก็ทำลายเครื่องดับเพลิงที่ถูกส่งเข้าไปในพื้นที่
ในเวลาประมาณ 02.00 น. บางส่วนของกลุ่มคนเดินขบวนไปที่ห้าง One City Mall ที่อยู่ใกล้เคียง ทุบกระจกห้างและพังรถยนต์ 1 คัน โดยห้างนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานบริษัทผู้พัฒนาโครงการ One City ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ตั้งของวัด
จากรายงานของตำรวจเขตสุบังจายา เหตุจลาจลเกิดขึ้นจากความขัดแย้งกันเรื่องการย้ายสถานที่ตั้งของวัด โดยวัดมีกำหนดต้องย้ายออกไปในเช้าวันที่ 26 พ.ย. แต่เกิดเหตุรุนแรงระหว่างสองกลุ่มขึ้นก่อน รัฐบาลรัฐสลังงอร์ได้จัดเตรียมพื้นที่ใหม่เพื่อให้เป็นที่ตั้งของวัด ขณะที่ One City เสนอเงินจำนวน 1.5 ล้านริงกิต หรือเกือบ 12 ล้านบาท ในการก่อสร้างวัดแห่งใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ก่อเหตุจลาจลได้ทั้งหมด 21 ราย
“ เรากำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่ One City Mall ซึ่งมีหน้าต่างถูกทำลายแตกเสียหายจากผู้อยู่อาศัยในย่านนั้นที่ไม่มีความรับผิดชอบ ” Mazlan Mansor ผู้บัญชาการตำรวจรัฐสลังงอร์กล่าวเมื่อวันที่ 27 พ.ย.
“ นอกจากนี้ ยังมีการสอบสวนคดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยถูกลากออกมาทุบตีทำร้าย ขณะที่นำรถดับเพลิงเข้าไปในพื้นที่ และอุปกรณ์ดับเพลิงก็ถูกทำลายด้วย ” เขากล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อสเตรทไทม์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ถูกทำร้ายยังอยู่ในภาวะวิกฤตที่โรงพยาบาลในขณะนี้
“ การทำร้ายเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเป็นเรื่องเลวร้ายมาก เพราะเขากำลังปฏิบัติหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในบริเวณใกล้เคียงกับวัด ” P Waytha Moorthy รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
“ รัฐบาลจะไม่ทนกับพฤติกรรมเช่นนี้ และผมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในทันทีเพื่อควบคุมความรุนแรงและเข้าควบคุมม็อบที่เกิดจากหลายกลุ่มที่อ้างว่าทำไปเพื่อปกป้องความปลอดภัยของวัด ”
Mohd Aziz Jamman รมช.กระทรวงมหาดไทยระบุว่า เหตุความรุนแรงครั้งนี้เป็นพฤติกรรมที่ “ล้ำเส้น”
“ เหตุจลาจลนี้จะควบคุมไม่ได้หากเราปล่อยให้ดำเนินต่อไป เราต้องควบคุมให้อยู่ในความสงบ นี่เป็นปัญหาระหว่างบริษัทผู้พัฒนา (One City) กับวัด ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นศาสนา หรือเชื้อชาติ ”
สามารถควบคุมสถานการณ์รอบๆวัดไว้ได้แล้ว ผู้บัญชาการตำรวจรัฐสลังงอร์กล่าว “ ตำรวจจะไม่ลังเลที่จะจัดการกับใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมาย ”
“ ผมขอแนะนำประชาชนว่า อย่าตื่นตระหนกเพราะตำรวจอยู่ในท้องที่และพร้อมที่จะปฏิบัติการ (หากมีการก่อความไม่สงบ) และหน่วยงานของเจ้าหน้าที่สอบสวนกลางตั้งอยู่ที่นั่นด้วย ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 27 พ.ย. รมว.และรมช. 4 คนได้ออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อตั้งคำถามถึงการขานรับเรื่องนี้ของตำรวจสุบังจายา
“ คำถามคือ ทำไมจึงมีรถตำรวจสุบังจายาเพียงคันเดียวในที่เกิดเหตุเวลา 04.15 น. ขณะที่ฝ่ายสอบสวนกลางมาถึงในเวลา 06.00 น.” เขากล่าว โดยเอ่ยถึงเหตุรุนแรงเมื่อวันที่ 26 พ.ย.
P Waytha Moorthy รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้พูดถึงแถลงการณ์ก่อนหน้านี้จากตำรวจเขตสุบังจายาที่อธิบายเหตุการณ์ว่าเป็นการต่อสู้ระหว่าง 2 กลุ่มที่เกิดความขัดแย้งกันเรื่องการย้ายสถานที่ตั้งวัด
“ แถลงการณ์นี้ไม่ถูกต้องและขาดความรับผิดชอบ มันได้สร้างความตึงเครียดมากขึ้นในชุมชนชาวอินเดีย โดยเฉพาะในการขานรับกับเหตุรุนแรงที่ล่าช้าและไร้ประสิทธิภาพของตำรวจสุบังจายา ” รมว.เสริม และเรียกร้องให้มีการแก้ไขแถลงการณ์ให้ถูกต้องในทันที.