“ปินส์”ขัดแย้งสงครามยาเสพติดดูเตอร์เต
สงครามปราบปรามยาเสพติดของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งเป็นนโยบายที่เขาใช้หาเสียงก่อนการเลือกตั้งและทำให้เขาชนะการเลือกตั้งในช่วงกลางปี 2559 โดยเขาสัญญาว่าจะกำจัดยาเสพติดด้วยมาตรการที่จำเป็น
หลังชนะการเลือกตั้ง ดูเตอร์เตประกาศสงครามปราบยาเสพติดอย่างเด็ดขาดรุนแรง และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการวิสามัญผู้เสพยาและพ่อค้ายาไปแล้ว 4,854 รายเนื่องจากมีการขัดขืนการจับกุม ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนประเมินว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจริงสูงกว่านี้ถึง 3 เท่า
อ้างอิงจากผลสำรวจล่าสุดของ SWS ประชาชนชาวฟิลิปปินส์ให้การสนับสนุนมาตรการปราบปรามยาเสพติด 78% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงภายในหนึ่งปี สงครามยาเสพติดพิสูจน์ให้เห็นว่า ความรุนแรงที่นานาชาติประณาม กลับเป็นความปรารถนาของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจเดียวกันแสดงให้เห็นว่า มีถึง 96% ในบรรดาผู้คัดค้านการวิสามัญ ที่ระบุว่าผู้ต้องสงสัยควรจะถูกจับกุมแบบมีชีวิตอยู่
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นโยบายของดูเตอร์เตเป็นการแก้ไขที่มาของปัญหาอาชญากรรม เพื่อพัฒนาชาติ และคนยากจนนับล้าน รวมถึงความผันผวนทางการเมืองในอดีต
“ ไม่ใช่ว่าพวกเขาทำเป็นตาบอดมองไม่เห็นกับการวิสามัญ แต่พวกเขากังวลจริงๆเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด ” Steven Rood ประชาชนในการสำรวจของ SWS ระบุ
“ เป็นปัญหามายาวนาน และในที่สุด ท่านประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์กำลังทำบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ” เขาเสริม โดยอธิบายว่ามีชาวฟิลิปปินส์มากแค่ไหนที่มองประเด็นยาเสพติด
Bitoy Paras ผู้เสพยาที่ต้องโทษจำคุกระบุว่า “ ดูเตอร์เตพูดดุมาก เขาว่าเขาจะกำจัดคนติดยาให้หมด ผมดีใจนะที่เขาทำตามนั้น แต่ผมไม่สบายใจเรื่องการวิสามัญ ” เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อ AFP ที่ทัณฑสถานกลางมะนิลา ซึ่งแออัดไปด้วยผู้ต้องหาคดียาเสพติด
ขณะที่ Katherine Bautista สนับสนุนการปราบปรามยาเสพติดจนกระทั่งลูกเลี้ยงของเธอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต แม้เธอจะยืนยันว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่ใช่ผู้เสพยาก็ตาม
“ ฉันยังเคยพูดว่าน้ำตาของครอบครัวที่ถูกวิสามัญเป็นเรื่องหลอกลวง แต่เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรา ฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่พวกเขารู้สึก ” Bautista กล่าวกับสื่อ AFP
ในปีที่แล้ว มีการประท้วงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยในฟิลิปปินส์หลังการเสียชีวิตของวัยรุ่นจำนวนมาก ขณะที่ความรุนแรงของปฏิบัติการของตำรวจทำให้ดูเตอร์เตสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารทำหน้าที่แทนตำรวจถึงสองครั้ง และสัญญาว่าจะดำเนินคดีฆาตกรรมกับตำรวจที่กระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุกับผู้ต้องสงสัย
ศาลอาญาระหว่างประเทศได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นกับการวิสามัญเหล่านี้ ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่าดูเตอร์เตอาจถูกดำเนินคดีในฐานะอาชญากรที่ก่ออาชญากรรมกับมนุษยชาติ
ขณะเดียวกัน ดูเตอร์เตกล่าวย้ำเรื่องสงครามยาเสพติดในการกล่าวสุนทรพจน์บ่อยเกือบจะเป็นรายวัน โดยเขาเน้นชัดว่า คนติดยาไม่มีความเป็นมนุษย์ ทำให้นักวิจารณ์กล่าวว่าประธานาธิบดีดูเตอร์เตใช้ข้อความที่ชัดเจนและกล่าวซ้ำๆ กับประชาชนเพื่อให้สนับสนุนแคมเปญปราบยาเสพติดอย่างรุนแรงของเขา
การปราบปรามยาเสพติดที่ยังดำเนินต่อไป ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มจำนวนสูงกว่าจำนวนประชาชนที่เสียชีวิต 3,240 รายในช่วง 9 ปีที่มีการใช้กฎอัยการศึกของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซึ่งถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่ดำมืดที่สุดของฟิลิปปินส์หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
เมื่อเร็วๆนี้ ดูเตอร์เตตอบโต้นักวิจารณ์ว่า “ ผมทำบาปอะไร ? ผมขโมยเงินหรือ ? ผมดำเนินคดีคนที่ผมส่งไปติดคุก ? บาปอย่างเดียวของผมคือการทำวิสามัญ ”