ผู้เสียชีวิตแผ่นดินไหวอินโดฯ เฉียด 2 พันราย
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ทางการอินโดนีเซียรายงานว่า จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิแล้วเกือบ 2,000 รายในเมืองปาลู บนเกาะสุลาเวสี โดยระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีกหลายพันคน
โดยจำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติทั้งแผ่นดินไหวและสึนามิในเมืองปาลูพุ่งสูงถึง 1,944 รายแล้ว M Thohir โฆษกทหารในพื้นที่รายงาน
“ คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะเรายังไม่ได้รับคำสั่งให้ยุติการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต” Thohir ซึ่งเป็นสมาชิกของสำนักบรรเทาแผ่นดินไหวเมืองปาลูกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ AFP เมื่อวันที่ 8 ต.ค.
ทางการยังระบุว่า เชื่อว่ามีประชาชนเที่ยังคงสูญหายอีกประมาณ 5,000 คนจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.ซึ่งชี้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกมาก
ความหวังในการค้นหาผู้รอดชีวิตค่อยๆริบหรี่ลง และปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตใต้เศษซากปรักหักพังได้เปลี่ยนเป็นการรวบรวมและนับร่างผู้เสียชีวิตแทน
สำนักบรรเทาภัยพิบัติอินโดนีเซียระบุว่า การค้นหาร่างผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ได้นับรวมอย่างเป็นทางการจะยังดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 11 ต.ค. นี้เป็นวันสุดท้าย เมื่อหมดวันนั้น จะมีการนับจำนวนผู้สูญหายที่ยังหาไม่พบเป็นผู้เสียชีวิต
รัฐบาลอินโดนีเซียระบุว่า จะประกาศให้ชุมชนที่พังทลายเสียหายหนักมากเกินฟื้นฟูในเมืองปาลูเป็นสุสานมวลชน และปล่อยไว้อย่างนั้นโดยไม่มีการแตะต้องใดๆ
โกปาล ซึ่งลุงและป้าของเขายังคงเป็นผู้สูญหาย เล่าว่าเขาเดินวนเวียนอยู่ในซากปรักหักพังในวันที่ 8 ต.ค.โดยรู้ดีว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่จะค้นหาผู้เป็นที่รักของเขา “ ถึงแม้ทีมกู้ภัยจะหยุดค้นหา เราก็จะพยายามหาพวกเขาต่อด้วยตัวเราเอง” ชายวัย 40 ปีกล่าว เขาอยู่ในเมืองบาลาโรอา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียงเมืองปาลูที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
“ ถ้าเราทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เราก็จะปล่อยให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระอัลเลาะห์” โกปาลเสริม เขาเป็นเหมือนกับชาวอินโดนีเซียอีกจำนวนมากที่มีเพียงชื่อเดียว ไม่มีนามสกุล
เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเครื่องขุดยังคงทำงานอยู่ในพื้นที่บาลาโรอาตลอดวันที่ 8 ต.ค.บริเวณนี้เคยเป็นบ้านการเคหะของรัฐบาลแต่ถูกภัยพิบัติทำลายพังเสียหายจนหมด เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างยากลำบากในการขุดหาร่างผู้เสียชีวิตจากซากอาคารทั้งหมด
ทางการกังวลว่า มีจำนวนประชาชนประมาณ 5,000 คนที่อาจถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังในพื้นที่บาลาโรอาและเปโตโบ ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับความเสียหายมากเช่นกัน
โดยเปโตโบเป็นกลุ่มหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงถึง 7.5 แมกนิจูด ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนสภาพจากดินกลายเป็นทราย หรือกระบวนการที่เรียกกันว่า สภาวะการเหลวตัว ( liquefaction)
ทางการเร่งระดมความช่วยเหลือให้กับประชาชนประมาณ 200,000 คนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล จนถึงตอนนี้ ยังคงขาดแคลนอาหารและน้ำสะอาดและหลายคนต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยสิ่งของบริจาคเพื่อประทังชีวิต
เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังพื้นที่ห่างไกลนอกเมืองปาลู ที่ซึ่งยังไม่มีการเคลียร์ความเสียหายของพื้นที่
ขณะที่สภากาชาดระบุว่า ได้ทำการรักษาประชาชนมากกว่า 1,800 คนที่คลินิก และให้การรักษาฉุกเฉินแก่ผู้ประสบภัยในจำนวนเท่ากันในพื้นที่เสียหายร้ายแรงทันที
ทั้งนี้ อินโดนีเซียตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีภูเขาไฟคุกรุ่นอยู่จำนวนมาก และประชากร 260 ล้านคนมีความเสี่ยงที่จะประสบภัยพิบัติจากทั้งแผ่นดินไหว สึนามิ และการระเบิดของภูเขาไฟมากกว่าพื้นที่อื่น.