นาจิบโดนข้อหาฟอกเงิน/ใช้อำนาจฉ้อฉล
เมื่อวันที่ 20 ก.ย.อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซียโดนตั้ง 25 ข้อหาจากการใช้อำนาจฉ้อฉลและฟอกเงินที่มีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากกองทุนของชาติเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของเขา
โดยข้อกล่าวหาทั้งหมดคือใช้อำนาจฉ้อฉล 4 กระทงที่เกี่ยวข้องกับเงินกองทุน 1Malaysia Development Berhad (1MDB) จำนวน 2,300 ล้านริงกิต (18,285 ล้านบาท) อัยการยังได้แจ้งข้อหาที่เกี่ยวกับการฟอกเงินอีก 21 กระทง แบ่งเป็น 9 กระทงจากการรับเงินผิดกฎหมาย 5 กระทงจากการใช้กระบวนการผิดกฎหมาย และ 7 กระทงจากการโอนเงินไปให้บุคคลอื่น รองจเรตำรวจ นายพลนูร์ ราชิด อิบราฮิมระบุในแถลงการณ์
ทำให้เมื่อรวมกันทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่เดือนก.ค.จนถึงตอนนี้ นาจิบถูกตั้งข้อหาทั้งหมด 32 ข้อหา โดยฝ่ายสืบสวนสรุปพยานหลักฐานถึงเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่หายไปจากกองทุนฉาว 1MDB ซึ่งเป็นกองทุนที่เขาจัดตั้งขึ้นและนั่งเป็นประธานบริหาร อดีตนายกฯนาจิบปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา มีการรื้อคดีนี้ขึ้นมาสอบสวนใหม่หลังเขาพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งให้กับนายกฯมหาเธร์ โมฮัมหมัด
อัยการชี้แจงว่า นาจิบใช้อำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรี รมว.กระทรวงการคลังและประธานกองทุน 1MDB เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินประมาณ 2,300 ล้านริงกิต ในระหว่างปี 2554 – 2557
ข้อหาการฟอกเงินทั้งหมดอธิบายได้ว่านาจิบรับเงินจำนวน 2,100 ล้านริงกิตจาก Tanore Finance Corp ซึ่งทางการสหรัฐฯเคยระบุว่าใช้เป็นที่ไซฟอนเงินจากกองทุน 1MDB
“ข้อหาทั้งหมดในวันนี้ ทำให้ผมมีโอกาสที่จะเคลียร์ชื่อเสียงของผม ว่าผมไม่ใช่ขโมย” นาจิบให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เขาถูกปล่อยตัวหลังผู้พิพากษาให้ประกันตัวไปด้วยวงเงิน 3.5 ล้านริงกิต ซึ่งมีกำหนดจ่ายในวันที่ 28 ก.ย.
อัยการชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าละอายใจระดับชาติ ที่ผู้นำประเทศต้องมาเจอกับข้อหาเช่นนี้
“นี่เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับชายผู้มีอำนาจสูงสุดที่มาจากการเลือกตั้ง และเขา ต้องเผชิญหน้ากับข้อหาร้ายแรง ผลที่ตามมาหลังจากนี้อยู่ในการเฝ้าระวังของศาล” หัวหน้าอัยการระบุโดยชี้แจงว่าจำนวนเงินประกันตัวที่แท้จริงคือ 5 ล้านริงกิต
โดยนาจิบทวีตบนทวิตเตอร์เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ก.ย.ว่า “มีแต่พระเจ้าที่ทราบว่า ผมจะเจอกับอะไร” โดยเขาระบุว่า ความจริงจะถูกเปิดเผยต่อจากนี้
อาซัม บากิ รองผู้ตรวจการประจำสำนักงานต่อต้านการทุจริตระบุว่า อาจมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมกับนาจิบ รวมถึงบุคคลอื่นด้วย
“ผมไม่ปฏิเสธว่า จะมีการตั้งข้อหาอื่นๆกับนาจิบอีก” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ล็อบบี้ของศาลกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 20 ก.ย. เมื่อถูกถามถึงภรรยาของนาจิบคือโรสมาห์ เขากล่าวว่า “ผมไม่ปฏิเสธนะ”
ทั้งนี้ โรสมาห์ถูกทางการสอบสวนก่อนหน้านี้และถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ขณะที่ทนายความส่วนตัวของนาจิบถูกตั้งข้อหาฟอกเงินด้วยเช่นกันในสัปดาห์ที่แล้วหลังรับเงินผิดกฎหมายจำนวน 9.5 ล้านริงกิตจากนาจิบ
เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา นาจิบเผยแพร่เอกสารเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างของเขาที่ว่า เงินจำนวน 2,600 ล้านริงกิตที่โอนเข้ามาในบัญชีส่วนตัวของเขาเป็นเงินบริจาคจากราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย
จะมีการพิจารณาคดีของนาจิบโดยผู้พิพากษาศาลสูงสุดในวันที่ 4 ต.ค.นี้.