ศาลเมียนมาตัดสินจำคุกนักข่าวรอยเตอร์ 7 ปี
เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ผู้พิพากษาศาลเมียนมามีคำตัดสินว่า นักข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ซึ่งเป็นชาวเมียนมา 2 คน มีความผิดจริงจากการละเมิดกฎหมายที่ทำให้ความลับของทางราชการรั่วไหล จึงพิพากษาโทษจำคุกเป็นเวลา 7 ปี
โดยผู้พิพากษา Ye Lwin จากศาลย่างกุ้งระบุว่า Wa Lone วัย 32 ปี และ Kyaw Soe Oo วัย 28 ปี กระทำความผิดที่ทำให้ข้อมูลที่เป็นความลับของทางการรั่วไหลเมื่อพวกเขาได้รับเอกสารที่เป็นความลับมาอยู่ในการครอบครอง
“จำเลยมีความผิดจากการละเมิดกฎหมายทำความลับของทางราชการรั่วไหล ตามมาตรา 3.1 c และให้มีโทษจำคุก 7 ปี โดยเวลาที่จำเลยถูกควบคุมตัวในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.ปีที่แล้วจะถูกนำมาพิจารณารวมด้วย” ผู้พิพากษาระบุ
กลุ่มเสรีภาพสื่อ สหประชาชาติ สหภาพยุโรป และอีกหลายประเทศ ทั้งสหรัฐฯ แคนาดา และออสเตรเลียต่างเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักข่าวเมียนมาทั้งสองคนมาก่อนหน้านี้
“วันนี้เป็นวันที่เศร้ามากสำหรับเมียนมา นักข่าวรอยเตอร์ Wa Lone และ Kyaw Soe Oo และสื่อในทุกหนทุกแห่ง” Stephen J Adler หัวหน้าบก.ของรอยเตอร์ระบุในแถลงการณ์
ผู้สื่อข่าวทั้งสองคนให้การในชั้นศาลว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายส่งเอกสารให้พวกเขาในร้านอาหารแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของนครย่างกุ้ง ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่หลายคนเข้ามาจับกุมตัวพวกเขา
พยานที่เป็นตำรวจนายหนึ่งให้การว่า การพบกันที่ร้านอาหารเป็นการจัดฉากขึ้นเพื่อล่อนักข่าวทั้งสองคนให้ตกหลุมพราง เพื่อเป็นการสกัดกั้น หรือลงโทษพวกเขาจากการที่พวกเขารายงานข่าวว่าทหารเมียนมามีการสังหารหมู่ชาวมุสลิมโรฮิงญาและมีภาพแพร่ออกไปทั่วโลก
“ผมไม่กลัวเลย ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมเชื่อในความยุติธรรม ประชาธิปไตยและเสรีภาพ” Wa Lone หนึ่งในสองนักข่าวกล่าวหลังฟังคำพิพากษา
คำตัดสินครั้งนี้ทำให้ Wa Lone และ Kyaw Soe Oo ซึ่งไม่ได้เจอครอบครัวมานานเกือบ 9 เดือนหลังถูกจับกุมตัว ยังคงถูกจำคุกต่อไป โดย Kyaw Soe Oo มีบุตรสาววัย 3 ปี และภรรยาของ Wa Lone เพิ่งให้กำเนิดบุตรคนแรกเมื่อเดือนที่แล้ว
คำพิพากษานี้ยังกลายเป็นแรงกดดันต่อนางอองซาน ซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากการที่เธอเพิกเฉยต่อการปราบปรามชาวโรฮิงญาอย่างรุนแรงของกองทัพเมียนมาในเดือนส.ค.ปี 2560
มีชาวมุสลิมโรฮิงญากว่า 700,000 คนที่ต้องอพยพหนีตายข้ามพรมแดนไปบังคลาเทศ หลังการปราบปรามของทหารเมียนมา ซึ่งทางการเมียน
มาให้เหตุผลว่า ทหารต้องการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาที่บุกโจมตรีทำร้ายตำรวจเมียนมาก่อนเท่านั้น
โดยนักข่าวทั้งสองคนถูกจับกุมในวันที่ 12 ธ.ค.ปี 2560 ขณะที่พวกเขากำลังทำการสืบสวนแกะรอยกรณีการสังหารชาวโรฮิงญา 10 คน และการทารุณกรรมกรณีอื่นๆที่เกิดจากทหารและตำรวจในหมู่บ้าน Inn Din ในรัฐยะไข่
หน่วยงานพิสูจน์ข้อเท็จจริงของสหประชาชาติเปิดเผยข้อมูลเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ทหารเมียนมาทำการสังหารหมู่และข่มขืนชาวมุสลิมโรฮิงญาด้วยเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และเรียกร้องให้มีกระบวนการทางกฎหมายเพื่อลงโทษบรรดาผู้นำกองทัพเมียนมา แต่ทางการเมียนมาปฏิเสธ
โดยศาลอาญาระหว่างประเทศกำลังพิจารณาว่า มีอำนาจศาลที่ครอบคลุมเหตุการณ์ความรุนแรงในรัฐยะไข่หรือไม่ ขณะที่สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และแคนาดาคว่ำบาตรกองทัพและสำนักงานตำรวจเมียนมาจากการปราบปรามครั้งนี้
Zaw Htay โฆษกของรัฐบาลเมียนมาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในคดีนี้ โดยกล่าวว่า ระบบศาลของเมียนมามีความเป็นอิสระ และคดีนี้มีการดำเนินการตามกฎหมาย.