มหาเธร์ขอจีนช่วยปัญหางบประมาณ
นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดแห่งมาเลเซียร้องขอความช่วยเหลือจากผู้นำจีนในด้านปัญหางบประมาณเมื่อวันที่ 20 ส.ค. โดยเขาขอให้มีการปรับแก้โครงการสำคัญที่จีนสนับสนุนซึ่งลงนามในรัฐบาลสมัยอดีตนายกฯนาจิบ ราซัคที่มีแต่ข่าวฉาว
ผู้นำมาเลเซียวัย 93 ปี ซึ่งกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหลังพลิกล็อกชนะการเลือกตั้งในเดือนพ.ค. กล่าวโทษโครงการที่มีการทำข้อตกลงกับรัฐวิสาหกิจของจีนว่ามีราคาสูงเกินไป ทำให้รัฐบาลของนายกฯ มหาเธร์สั่งระงับโครงการที่จีนสนับสนุนที่มีมูลค่ามากกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมทั้งโครงการรถไฟสายหลัก และมหาเธร์ยังได้ให้คำมั่นว่าจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขามองว่ามีเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม ที่เกี่ยวข้องกับดีลอื่นๆในการไปเยือนจีนเป็นเวลา 5 วัน
ในระหว่างการแถลงข่าวกับนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงที่มหาศาลาประชาชน นายกฯมหาเธร์กล่าวขอบคุณจีนที่ตกลงจะนำเข้าผลิตภัณฑ์การเกษตรเพิ่ม อย่างเช่น ทุเรียน แต่นายกฯ ยังได้กล่าวว่าเขาคาดการณ์มากกว่านี้จากประเทศจีน
“ ผมเชื่อว่าจีนจะเห็นใจกับปัญหาที่เราต้องแก้ไข และบางทีอาจขอให้ช่วยเราแก้ไขปัญหางบประมาณภายในประเทศของเรา” เขากล่าว
ในระหว่างที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำประเทศนาน 9 ปี อดีตนายกฯนาจิบถูกกล่าวหาว่ามีการทำข้อตกลงอย่างรวดเร็วกับทางปักกิ่งเพื่อขอให้ช่วยจ่ายหนี้ที่เกี่ยวข้องกับข่าวฉาวด้านการเงินที่ทำให้เขาต้องหมดอำนาจ
ในสัปดาห์ที่แล้ว นายกฯมหาเธร์ระบุว่า เขากำลังพิจารณาที่จะยกเลิก หรือปรับเปลี่ยนข้อตกลงที่รัฐบาลเดิมทำไว้กับจีน โดยย้ำว่า “ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราคือการประหยัดเงิน”
มหาเธร์ต้องการตัดลดหนี้ของประเทศ ซึ่งสูงถึง 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8.30 ล้านล้านบาท
ถึงแม้จะขู่ว่าจะแก้ไขสัญญาที่เกี่ยวข้องกับจีน แต่มหาเธร์ก็ตั้งใจที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับปักกิ่งในระหว่างการเยือนจีนครั้งนี้
โดยเขาได้พบกับแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งบริษัทยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอาลีบาบาที่เมืองหังโจวเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ผู้นำมาเลเซียยังได้กำกับดูแลสัญญาณการตกลงความร่วมมือระหว่างบริษัทจี๋ลี่ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของจีนและโปรตอน ผู้ผลิตจากมาเลเซีย
จีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่พลเมืองเชื้อชาติจีนเป็นคนกลุ่มน้อย
ความสัมพันธ์ทวิภาคีนั้นอบอุ่นภายใต้การบริหารของรัฐบาลเดิม และการลงทุนของจีนที่มีให้กับมาเลเซียพุ่งทะยานขึ้น เนื่องจากจีนลงนามในโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญและโครงการก่อสร้าง แต่มีคำวิจารณ์ว่า บ่อยครั้งที่โครงการขาดความโปร่งใสและเงื่อนไขต่างๆ เช่นอัตราดอกเบี้ยกู้ยืม ไม่ส่งผลดีต่อมาเลเซีย ทำให้เกิดความแคลงใจเกี่ยวกับแรงจูงใจที่แท้จริงของนาจิบ
นาจิบและลูกน้องเคยถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินจำนวนนับพันล้านดอลลาร์จากกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติ ( 1MDB) แต่เขาก็หลุดคดีมาได้ในช่วงที่เขายังอยู่ในอำนาจ แต่หลังจากหมดอำนาจ นายกฯมหาเธร์รื้อคดีขึ้นมาสอบสวนใหม่ ทำให้เขาถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับข่าวฉาวและจะถูกดำเนินคดีในชั้นศาล โดยเขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
รวมถึงโครงการรถไฟ ซึ่งจะวิ่งจากพรมแดนไทยไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ รัฐบาลระงับโครงการที่จีนให้การสนับสนุน หลังจากมีการกล่าวหาว่า งบประมาณเกือบทั้งหมดในการทำงานถูกเบิกจ่ายไปแล้ว แต่การก่อสร้างคืบหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น.