สิงคโปร์ถูกแฮ็กข้อมูล กระทบ 1.5 ล้านคน
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ประกาศเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ผู้ให้บริการด้านสุขภาพรายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ อย่าง สิงเฮลธ์กำลังประสบปัญหา เนื่องจากมีการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมากอย่างผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบกับประชากรของสิงคโปร์เป็นจำนวนมาก รวมถึงนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงด้วย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้าถึงข้อมูลครั้งนี้มีมากถึง 1.5 ล้านคน ซึ่งมีทั้งผู้ป่วยที่ใช้บริการคลินิกรักษาผู้ป่วยนอกกับแพทย์เฉพาะทางและสหการแพทย์ ที่มีบริษัทดำเนินการมาเป็นเวลามากกว่า 3 ปี ต่างได้รับผลกระทบ อ้างอิงจากตัวเลขประมาณการประชากร สิงคโปร์มีพลเมืองอยู่ราว 5.6 ล้านคน
นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงระบุเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ผ่านโพสต์บนเฟซบุ๊กเพื่อตอบโต้การแฮ็กข้อมูลว่า “การรักษาความปลอดภัยและความลับเกี่ยวกับข้อมูลของผู้ป่วยถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด”
“เรากำลังจัดการประชุมกับคณะกรรมการสอบสวน เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถี่ถ้วน โดยในท้ายที่สุดจะต้องได้ข้อสรุปและข้อแนะนำที่มีค่า และช่วยให้เราทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น”
กลุ่มผู้โจมตีสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบของสิงเฮลธ์ และเข้าไปในระบบเพื่อคัดลอกข้อมูลรายบุคคลที่ไม่ใช่ข้อมูลทางการแพทย์อย่างผิดกฎหมาย ของผู้ที่เข้าใช้บริการคลินิกตั้งแต่เดือน พ.ค. ปี 2558 จนกระทั่งวันที่ 4 ก.ค.ของปีนี้ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดครอบคลุมไปถึง ชื่อ ที่อยู่ วันเกิด และข้อมูลบัตรประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีการเข้าถึงข้อมูลยาของผู้ป่วยนอก 160,000 ราย รวมถึงนายกฯลี ซึ่งเขาระบุว่า เขาถูกจับตาเป็นเป้าหมายหลักของผู้บุกรุกเหล่านี้
นายกลีระบุว่า “ผมไม่ทราบว่าผู้บุกรุกเหล่านี้กำลังค้นหาอะไร พวกเขาอาจจะต้องการข้อมูลลึกลับระดับประเทศ หรือไม่ก็ข้อมูลที่ทำให้ผมต้องอับอาย ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว พวกเขาคงจะต้องผิดหวังแน่”
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า แฮ็กเกอร์เหล่านี้ ไม่ได้ทำการบุกรุกเข้าถึงข้อมูลการวินิจฉัย ผลการทดสอบ หรือข้อความของแพทย์เลย ในโพสต์บนเฟซบุ๊กที่แยกออกมา ทางบริษัทระบุว่า กลุ่มผู้โจมตีเหล่านี้ ไม่สามารถเก็บข้อมูลเลขโทรศัพท์ของผู้ป่วย หรือข้อมูลทางการเงินของผู้ป่วยได้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติการเพื่อค้นหาต่อไป โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบความผิดปกติเป็นครั้งแรก ในฐานเก็บข้อมูล IT ของบริษัทสิงเฮลธ์ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. อ้างอิงจากการเปิดเผยข่าวของทางกระทรวงสาธารณสุข หลังจากนั้น 6 วัน จึงมีการยืนยันเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์
กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า “นี่เป็นการโจมตีทางไซเบอร์ที่รอบคอบ มีเป้าหมายชัดเจน และวางแผนมาอย่างดีเยี่ยม ไม่ใช่ปฏิบัติการอย่างที่นักแฮ็กทั่วไป หรือกลุ่มแฮ็กเกอร์ทางอาชญากรรมมักทำ”
บริษัทสิงเฮลธ์ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแฮ็กข้อมูลบนเว็บไซต์ของบริษัท โดยผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลว่าได้รับผลกระทบหรือไม่ และทางบริษัทกำลังติดต่อกับผู้ป่วยทุกรายในขณะนี้