“มหาเธร์”ฟื้นความมั่งคั่งให้มาเลย์ใน 2 ปี
นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ซึ่งตั้งใจที่จะอยู่ในตำแหน่งนายกฯของมาเลเซียเพียงแค่ 2 ปี ย้ำว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูความมั่งคั่งและกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศภายในสมัยของเขา
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า 2 ปีนี้ไม่ใช่กรอบเวลา แต่มีข้อเสนอที่อาจประสบความสำเร็จไม่เร็วก็ช้า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
“ ถ้าเป็นไปได้ ในเวลาอันใกล้ ผมต้องการเอาชนะปัญหาที่ประสบอยู่ นี่เป็นความสำคัญแรกของผม คือการฟื้นฟูความมั่งคั่งและเศรษฐกิจและทำให้ประเทศก้าวหน้า”
“ เงินไม่สำคัญถ้าผมประสบความสำเร็จ สิ่งที่สำคัญคือความพอใจในงาน นี่เป็นสิ่งที่ผมจะลงมือทำ” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Sinar Harian ที่มูลนิธิผู้นำ Perdana
การให้สัมภาษณ์ชี้ให้เห็นถึงบทบาทของพรรค Pakatan Harapan หรือพรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน ในการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ โดยมุ่งเน้นที่การลดมูลค่าหนี้ประเทศ คงความสัมพันธ์กับสถาบันกษัตริย์ และเป้าหมายของมหาเธร์ในรัฐบาลปัจจุบัน
จากมูลค่าหนี้ของมาเลเซียในปัจจุบันที่มากกว่า 1 ล้านล้านริงกิต หรือราว 8.17 ล้านล้านบาท มหาเธร์กล่าวว่า ไม่มีประเทศใดที่ควรมีหนี้สูงขนาดนี้ และแสดงความประหลาดใจว่ารัฐบาลก่อนหน้าปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
โดยรัฐบาลของอดีตนายกฯนาจิบ ราซัค มีการกู้เงินจากประเทศอื่นด้วยจำนวนที่สูงมาก และจากธนาคารต่างประเทศที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูง รวมทั้งแหล่งเงินทุนในประเทศด้วย
นายกฯมหาเธร์กล่าวว่า สิ่งสำคัญของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรค Pakatan Harapan ที่จะทำในตอนนี้คือเพื่อให้แน่ใจว่า จะสามารถชำระเงินคืนที่กู้มาได้หมด
พื้นฐานของนโยบายนี้ พรรค Pakatan Harapan ได้แก้ปัญหาด้วยการลดหนี้ ขณะที่พยายามจะหาหนทางที่จะประสบความสำเร็จให้ได้
“ นีเป็นเหตุผลที่เราจะไม่ใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มอีก เราต้องการลดหนี้ ถ้าเราต้องการจะจ่ายหนี้คืน เราต้องหาหนทาง ไม่ใชเรื่องปกติที่จะขอยืมเงินเพื่อจ่ายคืน ประเทศต้องไม่มีหนี้นอกเหนือไปจากนี้อีก เราจะใช้จ่ายงบประมาณเท่าที่เราสามารถจ่ายได้” ผู้นำมาเลเซียเสริม
นายกฯมหาเธร์ยังย้ำว่า นี่เป็นอีกเหตุผลของมุมมองทางการเงิน ซึ่งอธิบายว่าทำไมต้องมีการดูแลด้านการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ติดหล่มกับปัญหาหนี้ที่สูงเช่นนี้อีก
“ เหมือนเราเป็นหนี้เจ้าหนี้เงินกู้ ถ้าเราไม่จ่าย เจ้าหนี้จะซ้อมเรา ก็เหมือนกัน ถ้าเราจ่ายไม่ได้ เขาหรือเจ้าหนี้จะบีบเรา แต่ด้วยคำพูดประมาณว่า จะทำให้เราล้มละลาย” นายกฯมหาเธร์กล่าว