Go-Jek ขยายตลาดเพิ่ม 4 ประเทศ
Go-Jek สตาร์ทอัพผู้ให้บริการรถร่วมโดยสารที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในอินโดนีเซียกำลังมีแผนขยายธุรกิจไปต่างประเทศ
โดยบริษัทจะลงทุนประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 16,135 ล้านบาท เพื่อขยายตลาดไปสู่ 4 ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน คือ เวียดนาม ประเทศไทย สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ในอีกไม่กี่เดือนหน้า อ้างอิงจากแถลงการณ์ของ Go-Jek เมื่อวันที่ 24 พ.ค.
ทางบริษัทระบุว่า จะให้การสนับสนุนทางเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญเพื่อก่อตั้งทีมทำงานใน 4 ประเทศ โดยบริษัทในประเทศเหล่านั้นจะเป็นผู้กำหนดแบรนด์และอัตลักษณ์ของแบรนด์ และทำงานเพื่อให้ได้จำนวนผู้ใช้บริการตามแผน
“ เราได้ไปสำรวจประเทศเหล่านั้นแล้ว และเรารู้สึกว่าวิธีแก้ปัญหาที่เราใช้ในอินโดฯ จะเหมาะสมกับทั้ง 4 ประเทศ ” Andre Soelistyo ประธานบริษัท Go-Jek กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNBC เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ในระยะแรก Go-Jek จะเริ่มทำธุรกิจรถร่วมโดยสารก่อนที่จะมีการแนะนำบริการอื่นๆเพิ่มเติม
Go-Jek เริ่มให้บริการร่วมโดยสารด้วยรถจักรยานยนต์ และแตกไลน์ธุรกิจออกเป็นบริการส่งอาหารและการจ่ายเงิน ในปี 2560 บริษัทระบุว่าได้ซื้อกิจการของบริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ ฟินเทค 3 แห่ง เพื่อให้มีส่วนหนุนระบบการจ่ายเงินดิจิทัลของบริษัทในอินโดนีเซีย
บริษัทมีการดำเนินงานใน 50 เมืองทั่วอินโดนีเซีย และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนที่รู้จักกันดีของสิงคโปร์คือเทมาเส็ก โฮลดิงส์ และบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของจีนอย่าง Tencent
การขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่จะเป็นการยกระดับการต่อสู้กันให้ดุเดือดมากขึ้นระหว่าง Go-Jek กับ Grab ซึ่งมีฐานอยู่ในสิงคโปร์และให้บริการแบบเดียวกัน เช่น ระบบรถร่วมโดยสาร การจ่ายเงินดิจิทัล และบริการส่งอาหาร
ปัจจุบัน ทั้ง Grab และ Go-Jek มีการให้บริการแข่งขันกันในอินโดนีเซียแล้ว ซึ่ง Grab กำลังพยายามจะสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งของบริษัท
เมื่อเดือนมี.ค. อูเบอร์แถลงว่าจะขายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงให้คู่แข่งอย่าง Grab ซึ่งช่วยหนุนให้สถานะของ Grab แข็งแกร่งขึ้นในแต่ละประเทศทั่วภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม Soellistyo กล่าวว่า จากการควบรวมกิจการ ผู้ใช้งานและผู้ถือหุ้นในตลาดใหม่จะขานรับ Go-Jek เพราะทำให้พวกเขามีทางเลือกมากขึ้น
“ หากมีการแข่งขัน จะมีการเสนอให้บริการที่ดีขึ้น ผู้ให้บริการทุกรายถูกบีบให้มีบริการที่ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของผู้บริโภค” เขากล่าว
เมื่อต้นปีนี้ กูเกิลลงทุนใน Go-Jek และระบุว่า ความเคลื่อนไหวเป็นไปตามแผนของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ต้องการจะขยายเศรษฐกิจดิจิทัลในอินโดนีเซีย แต่ทางกูเกิลไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงินลงทุนใน Go-Jek แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในเดือนก.พ. Go-Jek ระดมเงินลงทุนรอบใหม่ได้ประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 48,405 ล้านบาท เกินจากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 38,724 ล้านบาท อ้างอิงจากรายงานของสื่อรอยเตอร์
ปัจจุบัน สตาร์ทอัพ Go-Jek มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 161,350 ล้านบาท อ้างอิงจากฐานข้อมูลตลาดการเงินเอกชน PtichBook.