จับตาสัมพันธ์รัฐบาลใหม่มาเลย์กับสิงคโปร์
สิงคโปร์และมาเลเซียอาจพบว่าความสัมพันธ์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน ถ้ารัฐบาลใหม่ของมาเลเซียถอนตัวจากโครงการรถไฟที่เป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ปรับปรุงดีขึ้น
มีเมฆหมอกของความผันผวนในอนาคตเกิดขึ้นจากข้อตกลงที่ทำไว้เมื่อปี 2559 ในการก่อสร้างโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์และสิงคโปร์ หลังจากนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดของมาเลเซียระบุในสัปดาห์นี้ว่า จะมีการพิจารณาทบทวนโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานจากต่างประเทศทั้งหมด โดยคณะรัฐบาลจะทำการประเมินสิ่งที่มีอยู่และความเป็นไปได้ รวมถึงจำนวนเงินกู้ทั้งหมดด้วย
หากมีการฉีกสัญญาโครงการก่อสร้างโครงข่ายรถไฟความยาว 350 ก.ม.จริง ( ซึ่งคาดว่าจะช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างสองประเทศลงเหลือเพียง 90 นาทีจากเดิมที่ต้องขับรถนาน 5 ชั่วโมง) อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดกับความสัมพันธ์ของมาเลเซียกับประเทศเพื่อนบ้านที่ร่ำรวยอย่างสิงคโปร์
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศไม่ได้ราบรื่นมานานหลายทศวรรษ หลังจากสิงคโปร์ขอแยกตัวจากมาเลเซียเป็นประเทศอิสระในปี 2508 ปัจจุบันทั้งสองเป็นพันธมิตรที่อบอุ่น ( แม้บางครั้งจะสะดุดไปบ้างในประเด็นเกี่ยวกับดินแดนและน้ำ) ซึ่งโครงการรถไฟความเร็วสูงกัวลาลัมเปอร์ – สิงคโปร์ ถือเป็นตัวแทนสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์
“ โครงการรถไฟความเร็วสูงเป็นโครงการที่สำคัญมาก เป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซียที่เริ่มตั้งแต่ปี 2553 ” เฉินซินหยิง นักวิเคราะห์วิจัยที่ชำนาญเรื่องมาเลเซียที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยางให้ความเห็น
โดยนายกมหาเธร์ ซึ่งเป็นอดีตผู้นำและนักการเมืองรุ่นเก๋าของมาเลเซียที่กลับมาชนะการเลือกตั้งได้อย่างอย่างพลิกโผ เคยกล่าวคัดค้านโครงการนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยเขาระบุถึงโครงการระดับเมกะโปรเจ็คท์หลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคและนักลงทุนจีน ว่า สิ้นเปลืองงบประมาณ และไม่จำเป็น
“ ความสัมพันธ์ทางการทูตกับสิงคโปร์อาจไม่อบอุ่นเท่ากับสมัยนาจิบ แต่จะกลายเป็นความตึงเครียดหากนายกฯมหาเธร์ยกเลิกโครงการรถไฟ”
Peter Mumford ผอ.ภูมิภาคเอเชียที่บริษัทที่ปรึกษา Eurasia Group ชี้ชัดไว้ในรายงานเมื่อวันที่ 16 พ.ค. “ มันจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจมาก แต่ก็ไม่เกินความคาดหมาย หากมหาเธร์ขอถอนตัว” Mumford พูดเสริม
หุ้นของ YTL ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาก่อสร้างรถไฟนี้ ดิ่งร่วงมากกว่า 8% เมื่อวันที่ 21 พ.ค. เมื่อตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดการซื้อขายหลังการเลือกตั้ง
“ การตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการเศษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงโครงการถไฟความเร็วสูง จะไม่เป็นการตัดสินใจของท่านนายกฯ เพียงคนเดียว” อ้างอิงจากเฉิน โดยนายกฯมหาเธร์เองระบุว่า หากโครงการมีความเป็นไปได้ จะขยายไปที่พรมแดนมาเลเซีย – ไทยด้วยเช่นกัน
จากข้อมูลการวิจัยของ IBM โครงการรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ – สิงคโปร์ เป็นโครงการที่ได้รับความนิยมทางการเมืองและเศรษฐกิจ จึงมีแนวโน้มจะเดินหน้าต่อไป
“ ในแง่ธุรกิจ เส้นทางรถไฟสายสิงคโปร์ – กัวลาลัมเปอร์เป็นเส้นทางบินระหว่างประเทศที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก สัญญาและกระบวนการเสนอราคายื่นประมูลมีแนวโน้มว่าจะมีการพิจารณาทบทวนใหม่ เพราะหน่วยงาน MyHSR อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของอดีตนายกฯนาจิบโดยตรง” อ้างอิงจากรายงานผลการวิจัย
นอกจากโครงการรถไฟความเร็วสูง ชัยชนะในการเลือกตั้งของมหาเธร์ดูจะเป็นเรื่องดีสำหรับสิงคโปร์
“ สิงคโปร์ยินดีต้อนรับเสียงจากมาเลเซียที่แข็งแกร่งในการผลักดันอาเซียนให้มีการบูรณาการในภูมิภาค และการเลื่อน หรือยกเลิกการลงทุนของจีนในโครงการรถไฟ และท่าเรือในมาเลเซียจะช่วยลดความเสี่ยงที่มาเลเซียจะเป็นคู่แข่งขันกับสิงคโปร์ ซึ่งมีสถานะเป็นผู้นำด้านฮับโลจิสติกส์อยู่ในปัจจุบัน” Mumford ระบุ.