อันวาร์เป็นอิสระแล้ว
นายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษจากสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย อ้างอิงจากข้อมูลของบุตรเขยของเขา
การได้รับพระราชทานอภัยโทษถือเป็นการปูทางให้เขาสามารถรับช่วงเป็นขึ้นผู้นำประเทศต่อจากนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นนายกฯ คนใหม่ได้เลย ไม่ต้องเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปีตามกฎหมายเดิม
นายอันวาร์เดินทางออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 16 พ.ค.โดยก่อนหน้านี้เขาพักฟื้นจากการผ่าตัดอยู่ที่นี่ เขาเคยถูกตัดสินให้ต้องโทษจำคุก 5 ปีในข้อหามีเพศสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติ แต่ที่จริงเขาบอกว่ามันคือข้อหาปลุกปั่นทางการเมืองต่างหาก มีการคาดการณ์กันว่าเขาจะได้รับการปล่อยตัวช่วงต้นเดือนมิ.ย. แต่เขากลับได้รับอิสรภาพเร็วกว่าที่คาด
อันวาร์เป็นนักการเมือง ที่เป็นตัวแทนของการปฎิรูปในมาเลเซีย และเป็นแสงสว่างนำทางในพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลของมาเลเซียมานานจนถึงการเลือกตั้งในสัปดาห์ที่แล้ว เขาผจญกับอุปสรรคทางการเมืองมาอย่างโชกโชน โดยเขาถูกตัดสินจำคุกในปี 2558 เป็นครั้งที่ 2 ในข้อหามีเพศสัมพันธ์กับชาย ในสมัยอดีตนายกฯนาจิบ
ดร.มหาเธร์ วัย 92 ปี และนายอันวาร์ วัย 70 ปี วางแผนที่จะกลับมาร่วมกันต่อสู้อีกครั้งเพื่อโค่นอดีตนายกฯนาจิบลง โดยภรรยาของอันวาร์คือ วัน อซีซาห์ วัน อิสมาอิล เป็นผู้ช่วยคนสำคัญของมหาเธร์ในการประสานรวบรวมฝ่ายค้านให้เป็นปึกแผ่นเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งกับนาจิบ จากการพูดคุยกัน หากมหาเธร์ชนะเลือกตั้ง เขาจะอยู่ในตำแหน่งนายกฯเป็นเวลาประมาณสองปี แล้วจะให้นายอันวาร์รับตำแหน่งนายกฯต่อ
โดยมหาเธร์และอันวาร์ถือเป็นคู่ปรับทางการเมืองกันมานานกว่าสองทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียมองว่า การที่ทั้งสองคนกลับมาจับมือกันได้ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก พวกเขาสามารถโค่นทั้งนาจิบและพรรคอัมโน ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัยนานกว่า 60 ปีลงได้ James Chin ผอ. สถาบันเอเชียประจำมหาวิทยาลัยทัสมาเนียกล่าวกับสื่อ CNN
ทั้งนี้ อันวาร์เป็นนักเคลื่อนไหวที่เป็นที่รู้จักตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษาในกลุ่ม Muslim Youth ในกรุงกัวลาลัมเปอร์มาตั้งแต่เมื่อ 50 ปีก่อน โดยเขาถูกจับกุมตัวในปี 2517 ในการประท้วงของนักศึกษากับปัญหาความยากจนในชนบท เขาถูกตัดสินจำคุก 20 เดือน ถึงแม้จะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะนักต่อสู้เสรีนิยม แต่เขาก็หักอกผู้สนับสนุนเขาด้วยการเข้าร่วมในพรรคอัมโน พรรคอนุรักษ์นิยมที่นำโดยดร.มหาเธร์
เขาได้รับการวางตัวให้เป็นผู้นำคนใหม่ต่อจากมหาเธร์ แต่เขาวิจารณ์รัฐบาลมากเกินไปจนทำให้มหาเธร์ไม่พอใจ ในปี 2541 เขาถูกปลดจากตำแหน่งรองนายกฯ และถูกจับกุมในข้อหาคอร์รัปชั่นและเป็นรักร่วมเพศ เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในปีต่อมา ก่อให้เกิดการประท้วงไปตามท้องถนนครั้งใหญ่ในมาเลเซีย
หลังผ่านกระบวนการพิจาณาคดี ข้อหารักร่วมเพศของเขาถูกยกฟ้อง แต่ข้อหาคอร์รัปชั่นทำให้เขาไม่สามารถเข้ามาสู่วงการเมืองได้อีกจนทศวรรษต่อมา
ในปี 2551 เขาถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเมืองอีกครั้ง โดยถูกตั้งข้อหาว่ามีเพศสัมพันธ์กับชายอีกครั้ง หลังการยื่นอุทธรณ์ เขาถูกพิจารณาตัดสินต้องโทษจำคุกในปี 2558 กลุ่มสิทธิมนุษยชนวิจารณ์อย่างรุนแรงว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่รัฐบาลปฏิเสธ.