ปินส์ – คูเวตทำข้อตกลงสิทธิแรงงาน
ความขัดแย้งระหว่างคูเวตและฟิลิปปินส์เกี่ยวกับแรงงานยุติลงด้วยการลงนามในข้อตกลงที่ทำร่วมกันใหม่
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์สั่งห้ามแรงงานชาวฟิลิปปินส์ไม่ให้ไปทำงานที่คูเวต หลังจากเกิดคดีฆาตกรรมและทารุณกรรมแรงงานชาวฟิลิปปินส์หลายคดี
โดยเขาไม่พอใจที่ทราบข่าวว่า มีนายจ้างชาวคูเวตลงมือฆาตกรรมแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ เขาหั่นศพของเธอแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นในอพาร์ทเมนต์ของเขาเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
คดีนี้ส่งผลให้เกิดการขับทูตฟิลิปปินส์ออกนอกประเทศ และทางการคูเวตมีการจับกุมเจ้าหน้าที่สถานทูตฟิลิปปินส์ในคูเวตที่ให้การช่วยเหลือแรงงานฟิลิปปินส์
ปัจจุบัน มีแรงงานชาวฟิลิปปินส์ที่อาศัยอยู่และทำงานในคูเวตประมาณ 260,000 คน โดยส่วนใหญ่ทำงานเป็นแม่บ้าน
โดยสื่อ AFP รายงานถึงสำเนาของข้อตกลงที่ระบุถึงสิทธิของแรงงานฉบับใหม่ ที่แรงงานสามารถเก็บหนังสือเดินทางและโทรศัพท์มือถือไว้กับตัวเองได้ ซึ่งที่ผ่านมา นายจ้างชาวคูเวตและประเทศอ่าวอาหรับมักจะยึดทั้งสองอย่างนี้ไว้เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองเพื่อเอาเปรียบแรงงาน
นอกจากนี้ แรงงานจะได้รับการการันตีเรื่องอาหาร ที่อยู่ เสื้อผ้า และประกันสุขภาพ และการต่อสัญญาการจ้างงานฉบับใหม่จะต้องได้รับการอนุมัติจากทางเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ สื่อ AFP รายงาน
หลังจากมีการลงนามในข้อตกลงใหม่เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า จะมีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำคูเวตคนใหม่ และจะเสนอให้ประธานาธิบดีดูเตอร์เตยกเลิกคำสั่งที่ห้ามแรงงานฟิลิปปินส์ไปทำงานที่คูเวต
“ คิดว่าวิกฤตจบลงแล้ว เราจะเดินหน้าต่อไปพร้อมความสัมพันธ์ทวิภาคี และเราจะมีความสัมพันธ์ที่ปกติกับคูเวต” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวกับสื่อ AFP
แม่บ้านและคนทำงานบ้านชาวฟิลิปปินส์นับล้านคนในต่างประเทศ ทำงานหนักเพื่อส่งเงินกลับมาเลี้ยงดูครอบครัวในฟิลิปปินส์ การไปทำงานในต่างประเทศเป็นเรื่องปกติธรรมดาจนรัฐบาลส่งเสริมให้มีสถาบันฝึกอบรมทักษะแก่ประชาชนเพื่อให้ไปทำงานในอุตสาหกรรมบริการในต่างประเทศได้
อย่างไรก็ตาม ก็มีการรายงานถึงการทำร้ายแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างประเทศอยู่อย่างต่อเนื่อง การเสียชีวิตของ Joanna Demafelis แม่บ้านวัย 29 ปี เป็นกรณีล่าสุดที่ทำให้เกิดวิกฤตทางการทูต
เธอถูกพบเป็นศพแช่อยู่ในตู้เย็นในอพาร์ทเมนต์ของนายจ้างเมื่อเดือนก.พ. เธอถูกฆาตกรรมมามานานกว่าหนึ่งปี หลังจากมีรายงานว่าเธอหายตัวไป ศพของเธอมีร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างทารุณ โดยนายจ้างของเธอ ซึ่งเป็นคู่สามีภรรยา ถูกจับกุมตัวได้ด้วยความช่วยเหลือขององค์การตำรวจสากล
ทั้งสองคนถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในคูเวต และทางการคูเวตได้ประสานขอให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากเลบานอนและซีเรีย เนื่องจากทั้งสองคนแยกกันหลบหนีและถูกจับกุมตัวได้ในคนละประเทศ
ความขัดแย้งระหว่างสองชาติพุ่งขึ้นถึงขีดสุดในเดือนเม.ย. เมื่อคูเวตสั่งขับทูตฟิลิปปินส์กลับประเทศ หลังจากมีภาพวีดีโอที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตให้การช่วยเหลือแรงงานชาวฟิลิปปินส์ที่ถูกทำร้ายจากนายจ้างชาวคูเวต โดยคูเวตมองว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายของประเทศ และจับกุมตัวเจ้าหน้าที่สถานทุูตฟิลิปปินส์ในคูเวตด้วย.