พระราชทานอภัยโทษให้อันวาร์
นายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตผู้นำฝ่ายค้านของมาเลเซียที่ต้องโทษจำคุกจะได้รับพระราชทานอภัยโทษและได้รับการปล่อยตัวในเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซียคือดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัดกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 พ.ค. หนึ่งวันหลังจากพิธีสาบานตน
โดยดร.มหาเธร์ระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียมีพระราชประสงค์จะพระราชทานอภัยโทษให้นายอันวาร์ และเขาจะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำโดยทันที
“ จะเป็นการพระราชทานอภัยโทษอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหมายความว่า เขาจะได้รับการปล่อยตัวในทันที หลังจากมีการพระราชทานอภัยโทษ หลังจากนั้น เขาจะมีอิสระที่จะเข้าร่วมในทางการเมืองได้อย่างเต็มที่ ” เขากล่าว
ก่อนหน้านี้ ผู้นำมาเลเซียคนใหม่เคยกล่าวว่า เขาจะทำหน้าที่ผู้นำประเทศก่อนในช่วงแรก หลังจากนั้นจะหลีกทางให้นายอันวาร์เข้ามาเป็นผู้นำในการบริหารประเทศแทน หลังจากนายอันวาร์ได้รับพระราชทานอภัยโทษและได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส.
มหาเธร์ยังกล่าวว่า เขาจะพยายามทำให้คณะรัฐมนตรีมีขนาดเล็ก และประกาศว่าจะแต่งตั้งรมว.ประจำ 10 กระทรวงสำคัญ โดยจะมีการประกาศรายชื่อในวันที่ 12 พ.ค.
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย ยังได้พูดถึงการคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญสำหรับประชาชนชาวมาเลเซีย ว่าจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องแก้ไขเป็นลำดับแรกๆ
เขากล่าวหาว่า หลังจากผ่านกระบวนการออกเสียงเลือกตั้ง สำนักงานต่อต้านการทุจริตปฏิเสธว่า ไม่พบว่ามีการแจกจ่ายเงินไปถึงมือของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
“ ในช่วง 2 วันสุดท้าย ไม่มีการปราศรัย มีแต่เพียงเงินที่มีการแจกจ่ายไป เราจะดำเนินการสอบสวนในเรื่องเหล่านี้ให้ถูกต้อง ”
นอกจากนี้ หากมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าบางคนชนะได้ที่นั่งในสภามาเพราะการคอร์รัปชั่น จะถูกยกเลิกที่นั่งในสภาอย่างแน่นอน มหาเธร์กล่าว
เมื่อถูกถามจากผู้สื่อข่าว มหาเธร์ตอบว่า อัยการสูงสุดทำลายความเชื่อถือในตัวเขาเอง และปิดบังหลักฐานของการกระทำความผิด
ทั้งนี้ นายกฯมหาเธร์แสดงความมั่นใจเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ว่า รัฐบาลใหม่จะสามารถติดตามเงินส่วนใหญ่ที่หายไปจากการทุจริตที่อิ้อฉาวในกองทุน 1MDB กลับคืนมาได้
เขายังได้ให้ความเชื่อมั่นว่า มาเลเซียซึ่งเป็นประเทศการค้า ต้องการที่จะคงความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกชาติโดยไม่คำนึงถึงอุดมการณ์
“ เราจะเป็นประเทศที่เป็นกลางเท่าที่จะทำได้ และเราจะเป็นมิตรกับทุกประเทศ”
โดยนายกฯมหาเธร์จะมีการประชุมกับผู้นำในกลุ่มพันธมิตรทางการเมืองของเขาในเช้าวันที่ 11 พ.ค. โดยมุ่งเน้นในด้านการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย ที่แกนนำในการจัดตั้งไม่ได้มาจากพรรคแนวร่วมแห่งชาติ
มหาเธร์ ซึ่งมีอายุถึง 92 ปีได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 พ.ค.ทำให้เขาสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นผู้นำประเทศที่มีอายุมากที่สุดในโลก
เขาเรียกประชุมสมาชิกอาวุโสจากทั้ง 4 พรรคที่รวมกันเป็นพรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน หรือ Pakatan Harapan เพื่อปรึกษาหารือกันในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 พ.ค.มหาเธร์และพันธมิตรพรรค Pakatan Harapan สร้างประวัติศาสตร์ให้กับมาเลเซียด้วยการเอาชนะพรรคแนวร่วมแห่งชาติในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยพรรคแนวร่วมแห่งชาติเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลมานานกว่า 60 ปีหลังมาเลเซียได้รับเอกราช ชัยชนะครั้งนี้ถือว่าเกินความคาดหมาย เพราะรัฐบาลของอดีตนายกฯ นาจิบมีการสกัดกั้นทุกรูปแบบ ทั้งกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันทำงานกลางสัปดาห์ เพื่อให้หลายคนไม่สะดวกที่จะไปใช้สิทธิ รวมถึงออกกฎหมายป้องกันข่าวลวง เพื่อตั้งเป้ากำจัดผู้ที่วิจารณ์การทำงานของนายกฯนาจิบ ราซัค ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา.