สิงคโปร์เหมาะสมประชุมทรัมป์-คิม
สิงคโปร์เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆสำหรับการประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐฯกับผู้นำเกาหลีเหนือจากความเป็นกลางทางการเมืองและทางภูมิศาสตร์ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯและเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับสองของเอเชีย
นอกจากนี้ สิงคโโปร์ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคของบริษัทอเมริกันยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ทั้งอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล,เฟซบุ๊ก , วอลต์ดิสนีย์ , Procter & Gamble และเชฟรอน
ทำเลที่ตั้งที่เป็นกลางของสิงคโปร์ทำให้การพูดคุยระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯกับประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือปลอดจากการเฝ้าระวังของจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของเกาหลีเหนือ เพราะเป็นประเทศในระบอบคอมมิวนิสต์เหมือนกัน
“ ไม่มีทางที่คุณจะมีการพูดคุยเช่นนี้ได้ในจีน เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของจีนจะดักฟังบทสนทนาของผู้นำทั้งสองคนได้” Harry Kazianis ผอ.ฝ่ายความมั่นคงที่ศูนย์ผลประโยชน์แห่งชาติกล่าวกับผู้สื่อข่าว CNBC
นอกจากนี้ การจัดการประชุมที่สิงคโปร์ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่าจะประชุมกันที่เขตปลอดทหาร หรือ DMZ ที่พรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ซึ่งผู้นำสหรัฐฯเคยเอ่ยถึงว่ามีความเป็นไปได้ก่อนหน้านี้
“ มันดีกว่าที่ผู้นำสหรัฐฯจะไปเยือนถึงประตูบ้านของประธานาธิบดีคิม” Ian Bremmer ซีอีโอของ Eurasia Group กล่าว โดยเสริมว่า คาดว่าการประชุมครั้งแรกที่จะมีขึ้นนี้จะมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี
สิงคโปร์เป็นโลเคชั่นที่ดีสำหรับผู้นำเกาหลีเหนือเช่นกัน อ้างอิงจากความเห็นของ Tom Plant ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์และประเด็นการเพิ่มขยายที่ Royal United Services Institute ในลอนดอน
“ ผู้นำคิมจะอยู่บนดินแดนที่เป็นมิตร ไม่ใช่ดินแดนของศัตรู แต่ก็ไม่ถึงกับอยู่บนสนามหญ้าที่บ้าน” Plant กล่าวกับสื่อ AP
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯเผยสถานที่และวันที่ของการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเขาเดินทางไปต้อนรับ 3 นักโทษอเมริกันที่ถูกปล่อยตัวจากเกาหลีเหนือที่สนามบินพร้อมกับรมว.ต่างประเทศไมค์ ปอมเปโอ
ทรัมป์พูดในระหว่างการไปต้อนรับทั้งสามคนว่า เขามีความคาดหวังสูงมากสำหรับการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีที่ยังอยูในตำแหน่งของสหรัฐฯจะได้พูดคุยกับผู้นำของเกาหลีเหนือ
“ ผมคิดว่า เรามีโอกาสที่ดีมากที่จะได้ทำสิ่งที่มีความหมาย จะเป็นความสำเร็จที่ผมภูมิใจมากที่สุด เมื่อเราเป็นส่วนหนึ่งของการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว
แต่ผู้สังเกตการณ์บางคนไม่ได้มองในแง่ดีเหมือนผู้นำสหรัฐฯ Joshua Pollack นักวิจัยอาวุโสที่ Middlebury Institute of International Studies at Monterey รัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวกับสื่อ CNBC ว่า การประชุมระหว่างประธานาธิบดีคิมและทรัมป์มีแนวโน้มจะปนะสบผลสำเร็จไม่มากนัก
โดย Pollack กล่าวว่า การที่รัฐบาลของทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน รวมกับความสงสัยถึงความตั้งใจที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ของคิม อาจทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความไม่พอใจกันได้
“ การประชุมของสองผู้นำอาจส่งผลให้เกิดแถลงการณ์ร่วมในบางข้อ แต่ผมไม่คาดหวังถึงข้อผูกพันที่ลงลึกในรายละเอียด และผมไม่คิดว่า เกาหลีเหนือจะมองสหรัฐฯ ว่ามีความสำคัญในเวลานี้ เท่ากับเกาหลีใต้ ” เขากล่าว.