เวียดนามส่งออกผักผลไม้โต
ยอดส่งออกผลไม้และผักของเวียดนามสูงถึง 1,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 42,015 ล้านบาทในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เติบโตเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน อ้างอิงจากกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท
นับเป็นครั้งแรกของเวียดนามที่มูลค่าการค้าของผลไม้และผักเติบโตแซงมูลค่าการส่งออกน้ำมัน
ด้วยตัวเลขการส่งออกที่เติบโตในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา จึงคาดการณ์ว่าภาคส่วนนี้จะเติบโตทะลุเป้าที่ตั้งไว้คือ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 127,320 ล้านบาทได้ในปีนี้
ปัจจุบัน เวียดนามได้รับอนุญาตให้ส่งออกเงาะไปนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการได้หลังจากใช้เวลาในการเจรจานานถึง 7 ปี เปิดโอกาสให้ผลไม้และผักของเวียดนามสามารถเข้าถึงตลาดที่เข้มงวดอีกแห่งหนึ่งในโลกได้
Nguyễn Xuân Cường รมว.กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทระบุว่า การค้าผลไม้และผักทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 230,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 7.32 ล้านล้านบาทต่อปี ด้วยอัตราการเติบโต 3 -5% ต่อปี จึงยังคงมีพื้นที่อีกมากที่เวียดนามจะเพิ่มยอดการส่งออก
เพื่อความได้เปรียบของโอกาสในตลาด นอกจากการสร้างกระบวนการอำนวยความสะดวกสมัยใหม่ ภาคส่วนนี้ต้องสร้างพื้นที่ของวัตถุดิบที่มีคุณภาพเพื่อการส่งออกด้วย เขากล่าว
ถึงแม้จะได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในการส่งออก ภาคส่วนนี้ยังคงเผชิญกับความเสี่ยง เนื่องจากมีการพึ่งพาตลาดจีนอย่างมาก อ้างอิงจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนเป็นตลาดนำเข้าผลไม้และผักจากเวียดนามรายใหญ่ที่สุด ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกไปจีนคิดเป็น 77% ของการส่งออกผลไม้และผักของประเทศ โดยมีตลาดสหรัฐฯตามมาเป็นที่ 2 คือ 2.84% และญี่ปุ่นอยู่อันดับ 3 คือ 2.7%
Dr Nguyễn Minh Châu อดีตผอ.สถาบันวิจัยผลไม้ตอนใต้ระบุว่า จีนเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของเวียดนาม แต่ตลาดส่งออกควรมีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดจีนเป็นหลักมาตลอด
ภาคส่วนผลไม้และผักและภาคการเกษตรโดยทั่วไป ได้กำหนดแผนเพื่อให้ตลาดส่งออกมีความหลากหลายโดยการเสาะแสงหาตลาดที่มีศักยภาพอื่นๆ
อ้างอิงจากสมาคมผลไม้และผักเวียดนาม การส่งออกผลไม้และผักต้องประสบกับความยากลำบากในด้านการจ่ายเงิน รวมถึงเทคนิคในการเจรจาต่อรอง ท่ามกลางการบูรณาการเศรษฐกิจทั่วโลก เมื่อมีการลดภาษีลง อุปสรรคทางการค้าก็เพิ่มขึ้น
Hoàng Trung ผอ.ฝ่ายอารักขาพืชของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทระบุว่า การเปิดตลาดส่งออกผลไม้และผัก ผู้ประกอบธุรกิจและผู้ผลิตต้องเผชิญกับอุปสรรค 2 ประการจากประเทศผู้นำเข้า คือ การควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด และการกำหนดความปลอดภัยของอาหาร โดยเฉพาะสารตกค้างในผลไม้และผัก
โดยฝ่ายของเขาได้ให้เกือบ 6,000 เลขรหัสสำหรับพื้นที่เพาะปลูกผลไม้อย่างแก้วมังกร มะม่วง ลองกอง เงาะ และลิ้นจี่ โดยทางฝ่ายมีการประสานความร่วมมือกับคนในท้องถิ่นเพื่อจัดหาเลขรหัสสำหรับการเติบโตที่ได้คุณภาพสำหรับการส่งออก
รมว.Cường กล่าวว่า การเปิดตลาดใหม่สำหรับสินค้าไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคส่วนนี้ต้องควบคุมกระบวนการผลิตอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจในคุณภาพสินค้าและราคา และสร้างความเชื่อถือในตลาดที่กว้างขึ้น.