สั่งห้ามฟิลิปปินส์ทำงานในคูเวต
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตกล่าวว่า ตอนนี้คำสั่งห้ามไม่ให้พลเมืองฟิลิปปินส์ทำงานในคูเวตเป็นการชั่วคราวกลายเป็นคำสั่งห้ามอย่างถาวรแล้ว จากจุดยืนทางการทูตของประเทศอ่าวอาหรับเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อแรงงานอพยพ
ในเดือนก.พ.ทางการฟิลิปปินส์มีคำสั่งห้ามไม่ให้แรงงานฟิลิปปินส์ไปทำงานที่คูเวตเป็นการชั่วคราวหลังเกิดคดีฆาตกรรมที่มีการพบศพแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ถูกแช่แข็งอยู่ในตู้เย็นในบ้านของนายจ้างชาวคูเวต
วิกฤตยิ่งร้าวลึกหลังจากในสัปดาห์ที่แล้ว ทางการคูเวตสั่งขับทูตฟิลิปปินส์ออกนอกประเทศ หลังจากมีภาพวิดีโอของสถานทูตฟิลิปปินส์แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตให้การช่วยเหลือแรงงานในคูเวตให้หลบหนีอย่างผิดกฎหมายจากนายจ้างที่ทำทารุณกับพวกเขา
ทั้งสองประเทศเคยเจรจาทำข้อตกลงเรื่องแรงงานซึ่งเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ระบุว่า อาจส่งผลให้มีการยกเลิกคำสั่งห้าม แต่ความตึงเครียดที่ยกระดับขึ้นทำให้ยังมีความข้องใจในประเด็นการตกลงนี้
“ คำสั่งห้ามเป็นเรื่องถาวรแล้ว อาจไม่มีการรับสมัครงานอีกต่อไป โดยเฉพาะคนทำงานบ้าน ไม่มีอีกแล้ว ” ประธานาธิบดีดูเตอร์เตกล่าวกับผู้สื่อข่าวในบ้านเกิดของเขาคือเมืองดาเวา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ ยังไม่มีการขานรับในเรื่องนี้จากทางคูเวต ซึ่งมีชาวฟิลิปปินส์ทำงานอยู่ประมาณ 262,000 คน โดยเกือบ 60% ของทั้งหมดเป็นคนทำงานบ้าน อ้างอิงจากกระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์
สัปดาห์ก่อน ฟิลิปปินส์ขอโทษเกี่ยวกับภาพวีดีโอการช่วยเหลือ แต่ทางการคูเวตประกาศขับทูตของฟิลิปปินส์ออกจากคูเวตและเรียกทูตของคูเวตในฟิลิปปินส์กลับประเทศเช่นกัน โดยคูเวตยังควบคุมตัวชาวฟิลิปปินส์ 4 รายที่สถานทูตฟิลิปปินส์จ้างงาน และออกหมายจับ 3 เจ้าหน้าที่นักการทูตเป็นรายบุคคล อ้างอิงจากรายงาน
โดยในวันที่ 29 เม.ย.ประธานาธิบดีดูเตอร์เตบรรยายการปฏิบัติต่อแรงงานฟิลิปปินส์ในคูเวตว่า เป็นเหตุการณ์เลวร้าย เขากล่าวว่าจะนำตัวแม่บ้านฟิลิปปินส์ที่ถูกทารุณกรรมกลับบ้าน เขายังได้ร้องขอต่อแรงงานที่ต้องการทำงานต่อไปในคูเวตด้วย
“ ผมขอร้องผู้ที่รักชาติทุกคน กลับบ้านเถิด ไม่ว่าเราจะยากจนแค่ไหน เราจะอยู่รอดได้ เศรษฐกิจกำลังดีขึ้น และเรากำลังขาดแคลนแรงงานในบ้านเรา ” ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าว
ทั้งนี้ มีชาวฟิลิปปินส์ทำงานในต่างประเทศประมาณ 10 ล้านคน เนื่องจากได้รับค่าจ้างสูงกว่างานในประเทศ และรายได้ของพวกเขาช่วยค้ำจุนเป็นเสาหลักเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ ที่ผ่านมาหลายทศวรรษ ทางการฟิลิปปินส์ยกย่องแรงงานในต่างประเทศว่าเป็น ฮีโร่ยุคใหม่ แต่กลุ่มกฎหมายชี้ให้เห็นผลเชิงลบในโซเชียลมีเดียทั้งการอพยพ ทำให้ครอบครัวต้องถูกแยกจากกัน และทำให้ชาวฟิลิปปินส์ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิด
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ประธานาธิบดีดูเตอร์เตกล่าวว่า “ เห็นชัดว่าพวกเขาไม่พอใจคนฟิลิปปินส์ ผมจะไม่ส่งแรงงานไปอีก เพราะคุณไม่ชอบคนฟิลิปปินส์ ”
“ แค่อย่าทำร้ายพวกเขา ผมขอร้องว่า พวกเขาควรได้รับการปฏิบัติในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ”
ดูเตอร์เตกล่าวว่า แรงงานที่กลับมาจากคูเวตสามารถหางานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในจีนได้ เนื่องจากความสัมพันธ์กับจีนปรับปรุงดีขึ้นแล้ว
โดยเขาอธิบายว่า จีนเป็นเพื่อนแท้ และเขาจะขอความช่วยเหลือจากจีนเพื่อเป็นทุนสนับสนุนในการกลับบ้านของกลุ่มคนที่รักชาติ
“ ผมขอส่งสารถึงรัฐบาลและประชาชนชาวคูเวตว่า ขอบคุณที่ช่วยเหลือคนของประเทศของผมมาตลอดหลายปี เป็นหนี้พวกคุณทุกคนที่สามารถช่วยเหลือเราได้ ผมไม่มีความโกรธ หรือความเกลียดชังใดๆ ” ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าว.