ปิดเกาะโบราไกย์ 6 เดือน
เกาะท่องเที่ยวชื่อดังของฟิลิปปินส์ -โบราไกย์ ในภาษาฟิลิปปินส์ หรือที่นิยมเรียกกันว่า โบราเคย์ ตามตัวสะกดภาษาอังกฤษ จะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเยือนเป็นเวลานาน 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.นี้ เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของเกาะ
โดยเกาะที่สวยงามแห่งนี้ ถูกประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตกล่าวตำหนิว่า มีสภาพเลวร้ายเหมือน “ ส้วมซึม ”
ประธานาธิบดีดูเตอร์เตอนุมัติตามคำแนะนำของ 3 หน่วยงานภาครัฐให้ปิดเกาะโบราไกย์ อ้างอิงจากถ้อยแถลงของ Harry Roque โฆษกของเขาในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 4 เม.ย.
ทั้งนี้ ในปี 2560 ที่ผ่านมา เกาะโบราไกย์มีจำนวนนักท่องเที่ยวมาเยือนประมาณ 2 ล้านคน
พนักงานโรงแรมและรีสอร์ทมากกว่า 36,000 คน รวมทั้งหมอนวด ช่างสัก และพ่อค้าขายของคงต้องตกงาน อ้างอิงจากมูลนิธิโบราไกย์ ซึ่งเป็นองคืกรไม่แสวงหาผลกำไร โดยแรงงาน 7 ใน 10 คนทางวิสายาส์ตะวันตก ซึ่งเป็นภูมิภาคตอนกลางของฟิลิปปินส์ อยู่ในโบราไกย์
การปิดเกาะครั้งนี้ จะทำให้ประเทศต้องสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 56,000 ล้านเปโซ หรือราว 33,824 ล้านบาท หากการปิดเกาะใช้เวลานานถึงหนึ่งปี โดยโรงแรม 11 แห่งระบุว่า พวกเขาคงต้องสูญเสียรายได้รวมกันถึง 550 ล้านเปโซต่อปี
สายการบินหลายแห่งแนะนำผู้โดยสารว่า การจองตั๋วอาจได้รับผลกระทบจากการปิดเกาะ โดยฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์แถลงว่า จะคืนเงินค่าตั๋วโดยสารให้ลูกค้า ช่วยในการจองตั๋วใหม่ หรือปรับเปลี่ยนเส้นทางบินของเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวได้ยกเลิกการจองตั๋วแล้ว
โดยกระทรวงการท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์หยุดทำการตลาดเกาะโบราไกย์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวสถานที่อื่นในวิสายาส์ตะวันตก
เมื่อเดือนก.พ.ปีนี้ ประธานาธิบดีดูเตอร์เตเรียกเกาะโบราไกย์ว่า ส้วมซึม และขู่ว่าจะสั่งปิดเกาะเป็นเวลานานอย่างน้อย 6 เดือน
“ คุณลงเล่นน้ำดูสิ มีกลิ่นไหม เหม็นกลิ่นอะไรหรือเปล่า ก็อุจจาระไง” เขาตำหนิ
ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวว่าถ้าไม่มีการแก้ไข “ มันจะถึงเวลาที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปที่เกาะอีก เพราะมันมีแต่อุจจาระในห้องน้ำ”
เกาะโบราไกย์มีชื่อเสียงตกต่ำลง เพราะหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่นไม่สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆได้ ทั้งการอนุรักษ์สภาพน้ำทะเล ปัญหาขยะ และสุขอนามัย การควบคุมพื้นที่และการก่อสร้าง และอื่นๆ
มีโรงแรมและรีสอร์ทอย่างน้อย 300 แห่งบนเกาะที่ไม่ยอมสร้างระบบกำจัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐาน พวกเขาทิ้งขยะและน้ำเสียลงในคลองแทน
ทำให้ระดับของแบคทีเรียในน้ำรอบเกาะเพิ่มจำนวนขึ้น มีการปนเปื้อนอุจจาระ และทำให้เกิดโรคอหิวาต์ พื้นที่ 4 ใน 9 ของเกาะมีแต่ห้างสรรพสินค้า โรงแรมและประมาณ 100 ชุมชนที่อาศัยอยู่อย่างผิดกฎหมาย
คณะทำงานผู้วางแผนเศรษฐกิจของรัฐบาลระบุว่า การปิดเกาะโบราไกย์นาน 6 เดือน แทบจะไม่ส่งผลต่อการเติบโตของการท่องเที่ยวบนเกาะ โดย Reynaldo Cancio ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจและการพัฒนาแห่งชาติระบุว่า รายได้จากเกาะโบราไกย์คิดเป็นเพียง 0.1% ของจีดีพี
ทั้งนี้ เกาะโบราไกย์มีชื่อเสียงจากหาดทรายขาวและน้ำทะเลสีฟ้าใส ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเกาะพักผ่อนที่ดีที่สุดจากนิตยสาร Conde Nast ในปี 2559
นอกจากนี้ ยังมีการจัดอันดับให้เกาะโบราไกย์อยู่อันดับ 2 จาก 25 ชายหาดที่ดีที่สุดในเอเชีย และอันดับ 24 ของโลกจาก TripAdviser ปี 2561.
