พลังงานหนุนรายได้ให้ลาว
รัฐบาลลาวมั่นใจว่า ประเทศลาวจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมพลังงานและเหมืองแร่ในปี 2561 นี้ เนื่องจากทั้งสองภาคส่วนมีตัวเลขการขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในปัจจุบัน ลาวมีโรงไฟฟ้าพลังน้ำถึง 53 แห่งซึ่งมีกำลังการผลิต 7,082 MW และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ราว 37,028 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี
“ โรงไฟฟ้าของลาวอีก 47 แห่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง หรือกำลังจะเริ่มขั้นตอนการก่อสร้าง และคาดการณ์ว่าโรงไฟฟ้าทั้งหมดจะดำเนินการได้ภายในปี 2563 -2564 ซึ่งจะทำให้ลาวมีโรงไฟฟ้าพลังน้ำถึง 100 แห่ง มีกำลังการผลิตมากถึง 13,062 MW และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 66,944 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี ” สื่อเวียงจันทน์ไทม์รายงานเมื่อวันที่ 30 มี.ค.โดยอ้างอิงจากคำพูดของนายแกมมะนี อินทิรัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่
“ อย่างไรก็ตาม ประมาณ 85% จากกระแสไฟฟ้าทั้งหมดที่ลาวผลิตได้จะถูกส่งออกไปขายประเทศอื่นทั้งหมด ” เขากล่าว
จากการพัฒนาและการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลาวจึงมีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้ามากขึ้นสำหรับซัพพลายในประเทศ โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โครงการรถไฟลาว – จีน อุตสาหกรรมเหมืองแร่และการแปรรูป โครงการก่อสร้างพลังงาน และการส่งเสริมธุรกิจ SMEs รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาชนบท และโครงการคมนาคม อ้างอิงจากรายงานของรัฐมนตรีของลาว
นอกจากนี้ รัฐบาลลาวยังได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือในการศึกษาความเป็นไปได้ในการขายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านทั้งกัมพูชา จีน เมียนมา ประเทศไทย และเวียดนาม
ข้อตกลงในการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อการขายไฟฟ้าของลาวให้เวียดนามคือประมาณ 5,000 MW และในปัจจุบัน ลาวส่งออกไฟฟ้าได้ประมาณ 250 MW ต่อปี โดยคาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 MW ภายในปี 2563 เพิ่มเป็น 3,000 MW ในปี 2568 และเพิ่มเป็น 5,000 MW ภายในปี 2573
ลาวยังได้ตกลงที่จะขายไฟฟ้า 100 MW ให้กับมาเลเซียผ่านประเทศไทย และปัจจุบันสามารถซัพพลายได้ 100% ภายใต้โครงการต้นแบบสำหรับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ซึ่งรวมถึงแผนการที่จะขายไฟฟ้าให้กับสิงคโปร์ด้วยภายในปี 2563
“ ในปัจจุบัน 95% ของครัวเรือนทั่วประเทศลาวเข้าถึงไฟฟ้า และ 88% ของหมู่บ้านมีไฟฟ้าใช้ ” รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของลาวกล่าว.